แพคเกจ Diamond Princess ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน 15-24 มี.ค.63 ล่องเรือสำราญ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ 10วัน 9คืน เที่ยวเรือสำราญ เอเชีย JAPAN KOREA เดินทาง มีนาคม 2563

#Diamond Princess ล่องเรือสำราญสุดหรู ชมดอกซากุระบาน
**ญี่ปุ่น – เกาหลี 9 คืน เยือน 7 เมืองสวย ไฮไลท์เด่นฤดูใบไม้ผลิ
เส้นทาง : โตเกียว/มิยาซากิ/ฮากาตะ/ปูซาน/ซาเซโบะ/คาโกชิม่า/เบปุ
>>เดินทาง วันที่ 15 – 24 มีนาคม 2563
>>ราคาเริ่มต้น 45,900.-บาท
แถมโปรโมชั่นสุดคุ้ม สำหรับการจอง ภายใน 31 ต.ค.62
** ฟรี ทิปบนเรือ / Onboard Credit สูงสุด 100 Usd / Classic Soda Package / ทานห้องอาหารพิเศษ 1มื้อ

 15 มี.ค.63  กรุงเทพ – โตเกียว ( โยโกฮาม่า ) – เรือสำราญ Diamond Princess

…….. น.  เดินทางถึงโตเกียว ประเทศญีปุ่น หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร“กรุณาเช็คอินขึ้นเรืออย่างน้อย 2 ชม ก่อนเรือออก”
…….. น.  เดินทางสู่ท่าเรือ โยโกฮาม่า (Yokohama,Tokyo )
17.00 น.  เรือออกจากท่า  

16 มี.ค.63     ล่องทะเล ( At Sea ) 

**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
วันนี้เป็นวันที่ท่านจะได้สนุกสนาน และเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมายบนเรือ ที่มีให้ทุกท่านร่วมสนุกกันตลอดทั้งวัน

17 มี.ค.63  มิยาซากิ , ญี่ปุ่น

07.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ มิยาซากิ (Miyazaki ) จังหวัดมิยาซากิ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของภูมิภาคคิวชู ทางฝั่งตะวันออกของจังหวัดหันหน้าเข้าหาทะเลฮิวงะอันเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก และรายล้อมไปด้วยภูเขาในอีก 3 ด้านที่เหลือ พื้นที่ในฝั่งทางทิศเหนือไปยังทิศตะวันตกอยู่ติดกับจังหวัดโออิตะและจังหวัดคุมาโมโตะซึ่งเต็มไปด้วยหมู่เขาคิวชู ในขณะที่พื้นที่ทางใต้อยู่ติดกับจังหวัดคาโงชิมะซึ่งมีหมู่เขาคิริชิมะ และหมู่เขาวานิทสึกะ ภูเขาเหล่านี้ช่วยทำหน้าที่เป็นกำบังลมหนาวและเมื่อได้กระแสน้ำอุ่นแปซิฟิกมาด้วยทำให้มิยะซะกิมีอากาศอบอุ่น
**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-เกาะเอโอชิม่า (Aoshima ) : เกาะเล็ก ๆ ใกล้กับชายฝั่งมิยาซากิ เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพาน ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว และเป็นป่าดิบทึบบริเวณตรงกลางเกาะ ทางเดินรอบเกาะมีระยะทางเพียง 1.5 กิโลเมตร
-ศาลเจ้าอุโดะจิงกู (Udo Jingu Shrine) : ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1711 เพื่ออุทิศให้กับบิดาของจักรพรรดิองค์แรกตามตำนานของญี่ปุ่น และศาลเจ้าแห่งนี้ที่ค่อนข้างแปลกเนื่องจากตั้งอยู่ในถ้ำที่เกิดจากการที่คลื่นซัดสาดเข้ากระทบและกัดเซาะหน้าผาเลียบชายฝั่ง จากถนนสู่ศาลเจ้าบนหน้าผาตัดสูงชันมองไปเบื้องขวาจะเห็นสีฟ้าของเส้นขอบฟ้า สีแดงสดของรั้วและประตูศาลเจ้าและสีเขียวของพืชพรรณไม้ทางใต้น้อยใหญ่ที่ปลูกอยู่โดยรอบ ตัดกันสวยงาม
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
14.30 น.  เรือออกจากท่า

18 มี.ค.63  ฮากาตะ, ญี่ปุ่น

**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
12.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ ฮากาตะ (Hakata ) เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดฟุกุโอกะ ในภูมิภาคคิวชู
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-ปราสาทโคคูระ (Kokura Castle) : ตั้งอยู่ในตัวเมืองคิตะคิวชู ของจังหวัดฟูกุโอกะ ซึ่งมีรูปแบบการสร้างตามสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ มีความสูง 5 ชั้น โดยตัวหลังคาก็ มีถึง 4 ระดับ นอกจากนี้ยังมี มีสวนญี่ปุ่น ตั้งอยู่ ซึ่งภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ คือ ส่วนที่เป็นสวนแบบญี่ปุ่น ส่วนที่เป็นอาคารไม้ตั้งอยู่ริมบึงของสวนที่เอาไว้นั่งจิบชา ชมสวน พร้อมกับวิวปราสาทด้วย และส่วนสุดท้ายที่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมให้ได้เข้าไปชม
-ศาลเจ้าคุชิดะ (Kushida Shrine): ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองฟุคุโอกะ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โอะคุชิดะซัง (O-kushida-san) สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ราวปี ค.ศ. 757 โดยจักรพรรดิโคเค็น (Koken) เพื่อเป็นศาลเจ้าร่วมกับศาลเจ้าคุชิดะแห่งอิเสะ (จังหวัดมิเอะในปัจจุบัน) ก่อนที่จะถูกไฟไหม้ และบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1587 ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจึงนิยมมากราบไหว้ ขอพรให้มีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
-หอคอยฟุกุโอกะ (Fukuoka Tower) : เป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศา ตัวตึกเป็นกระจกสีฟ้า โดดเด่นด้วยความสูงถึง 234 เมตร เป็นอาคารสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่ริมทะเลฮากาตะ แพรวพราวไปด้วยกระจกสะท้อนท้องฟ้าและแสงอาทิตย์ทั้งอาคาร โครงสร้างสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ มีชั้นบนสุดของอาคารเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองฟุกุโอกะทั้งเมืองและทะเลฮากาตะในมุมกว้างได้อย่างสวยงาม
-พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู (Kyushu National Museum) : เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสี่รองจากพิพิธภัณฑ์ที่โตเกียว, เกียวโต และนารา คอนเซปต์ของที่นี่คือ “เพื่อที่จะเก็บภาพประเพณีวัฒนธรรมอันสวยงามของญี่ปุ่นจากด้านดีๆ ของประวัติศาสตร์เอเชียเอาไว้” พิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยห้องจัดแสดงพิเศษที่ชั้น 3, ห้องจัดแสดงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ชั้น 4 และยังมีโซนสร้างเสริมประสบการณ์วัฒนธรรมเอเชีย “Ajiri” ที่ัช้น 1 อีกด้วย
-ล่องเรือแม่น้ำยานากาว่า ( Yanagawa River) : สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือแม่น้ำยานากาว่าชมบรรยากาศของเมืองยานากาว่าในแบบต่างๆตามแต่ละฤดูกาล เช่น ในฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ชมดอกไม้หลากสีสัน ในฤดูร้อนก็จะได้ชมทัศนียภาพยามค่ำคืน ในฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมใบไม้แดงและในฤดูหนาวก็จะได้เพลิดเพลินกับการล่องเรือโคทัตสึ
-ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine),ฟุคุโอกะ เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ให้โชคในเรื่องของการเรียนการศึกษาและปัดเป่าเคราะห์โศก ทำให้ทุกปีจะมีผู้คนรวมถึงนักเรียนนักศึกษาที่ต้องเตรียมสอบมาเยือนมากถึง 7 ล้านคนเลยทีเดียว ตัวศาลหลักสร้างขึ้นอยู่เหนือหลุมฝังศพของซุกะวะระ มิจิซะเนะ (Sugawara Michizane) นักวิชาการและนักการเมืองชาวญี่ปุ่นผู้มีบทบาทสำคัญในอดีตเมื่อราว 1,000 ปีก่อน ซึ่งหลังจากเสียชีวิตลงเขาได้กลายเป็นที่สักการะบูชาของชาวญี่ปุ่นในฐานะเทพเจ้าแห่งการศึกษา
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
22.00 น.  เรือออกจากท่า

19 มี.ค.63  ปูซาน, เกาหลีใต้

07.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ ปูซาน (Busan ) เมือง ปูซาน, ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้มากกว่าปีละหลายแสนคน เช่น Haeundae, Songdo และ Gwangalli Beaches
**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น
-วัดเบียวเมียวซา (Beomeosa Temple) : ตั้งอยู่บนภูเขากอมจอง ทั้งยังเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองปูซาน คาดว่ามีอายุประมาณ 1,300 ปี ซึ่งสร้างโดยพระสงฆ์ผู้อุทิศตนให้กับศาสนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้คนแสวงหาความสงบที่แท้จริง และเรียนรู้ที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่น
-วัดแฮดง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple):ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่คนเกาหลีและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าแต่เดิมก่อนที่จะสร้างวัดพื้นที่ตรงนี้มีความแห้งแล้ง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล กระทั่งพระภิกษุท่านหนึ่งได้ฝันเห็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาซึ่งสถิตอยู่ในท้องทะเล บอกให้สร้างวัดบริเวณนี้จึงจะเกิดความโชคดี และก็เป็นดังนั้น เมื่อวัดสร้างเสร็จความแห้งแล้งที่เคยมีก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนและพืชไร่ อีกทั้งหากมองไปด้านหน้าจะเห็นภูเขาและถ้ามองไปด้านหลังของวัดจะเห็นน้ำทะเล ชาวบ้านจึงเชื่อว่าหากอธิษฐานสวดมนต์ในตอนเช้าก็จะได้รับการตอบจากเทพเจ้าแห่งความเมตตาในช่วงเย็นนั่นเอง
-ตลาดปลาจากัลชี (Ja-Gal-Ch'i Fish Market): ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในปูซาน เมืองเคียงจู (Gyeong-Ju) : วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) เป็นวัดทางพุทธศาสนาโบราณของเกาหลีซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 8 ในช่วงยุคทองของราชวงศ์สห Silla มรดกทั้งสองนี้แสดงให้เห็นถึงทักษะทางสถาปัตยกรรมที่พัฒนาอย่างสูงและงานฝีมือที่สร้างสรรค์ของชาวซิลลา และเจดีย์หินทั้งสองที่ตั้งอยู่ในวัดถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาซึ่งไม่มีใครเทียบได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด
-สวนทูมูลิ (Tumuli Park ) : เป็นสถานที่ตั้งหลุมฝังศพของราชวงศ์ชิลลาตั้งแต่ยุคก่อนการรวมคาบสมุทรเกาหลีไว้ด้วยกัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมสุสานเพื่อศึกษาเรื่องการก่อสร้างและการจัดวางทรัพย์สมบัติภายในสุสานต่างๆได้
-วัดทงโดซา (Tongdosa Temple) :เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลี ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเคียงจูกับเมืองพูซาน ภายในบริเวณวัดมีสิ่งก่อสร้างต่างๆกระจายอยู่ตามไหล่เขา รวมถึงมีรูปปั้นฝีมือเยี่ยมภายในศาลเจ้าต่างๆและภายในพิพิธภัณฑ์ของวัดมีผลงานทางศิลปะที่งดงามอยู่เป็นจำนวนมาก
-หมู่บ้านวัฒนธรรมปูซาน: สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์คือ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เรียงตัวสลับกันไปมา ตามทางเดินเล็กๆ ที่กำแพงจะมีรูปวาดอยู่ เกิดเป็นภาพที่สวยงามแปลกตาจนมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเดินเล่น ถ่ายรูปกันมากมาย ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดจากคนที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านจริงๆ เป็นคนทำขึ้นมาโดยจะมีลานชมวิวหมู่บ้านที่บริเวณด้านบนของเนินเขา
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
18.00 น. เรือออกจากท่า

20 มี.ค.63  ซาเซโบะ, ญี่ปุ่น

**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
07.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ ซาเซโบะ (Sasebo) เมืองในจังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดพื้นที่ทั้งสิ้น 364 ตารางกิโลเมตร เมื่อพูดถึงซาเซโบแล้ว ต้องนึกถึงเมืองที่มีฐานทัพอเมริกาตั้งอยู่  แต่จุดที่น่าสนใจของซาเซโบไม่ได้มีเท่านั้นเพราะถ้ามาที่นี้แล้วห้ามพลาดนั้นคือ การมา
-ชมวิวของหมู่เกาะทั้ง 99 (Kujuku-shima) และธีมพาร์ค Huis Ten Bosch
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
18.00 น.  เรือออกจากท่า

21 มี.ค.63  คาโกชิม่า, ญี่ปุ่น

07.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ คาโกชิม่า (Kagoshima) จังหวัดคาโกชิมะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคคิวชู ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายโดยเฉพาะภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ทำให้มีสภาพอากาศที่อบอุ่น และมีสิ่งที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้เราได้ประหลาดใจอีกด้วย
**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น
-อิบุสึกิ (Ibusuki): เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น (ไม่นับรวมเกาะโอกินาว่า) มีชายหาดที่สวยงามและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีชื่อเสียงด้านการออนเซนด้วยทรายร้อนหรือ Sands Bath โดยการเอาทรายที่มีอุณภูมิสูงมาฝังตัวเอาไว้
-ภูเขาไฟซากุระจิมะ(Sakura Jima) : ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคาโกชิม่าโดยมีอาณาบริเวณอยู่ที่ประมาณ 50 กิโลเมตร และมีความสูง 1,117 เมตร ซึ่งภูเขาไฟแห่งนี้เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่มากที่สุดของญี่ปุ่น เห็นได้จากการที่มีควันลอยอยู่ที่ปากกล่องภูเขาไฟอยู่ตลอดเวลาและมีปุทะเล็กๆน้อยๆหลายครั้งในแต่ละวัน
-ทะเลสาบอิเคดะ Lake Ikeda: ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู ระยะะทางรอบทะเลสาบมีระยะทางถึง 15 กิโลเมตร และมีจุดลึกสุดอยู่ที่ 233 เมตรเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ บริเวณทะเลสาบอิเคตะ สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟไคมงดาเกะได้อย่างชัดเจน
-สวนเซนกาเนน หรือ สวน อิโซเทเอน(Senganen/Iso Garden):เป็นสวนแบบญี่ปุ่น มีพื้นที่ประมาณ 15,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านเหนือของเมืองคาโกชิม่า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะสัมผัสความอลังกาลของคฤหาสน์ของท่านไดเมียว ต้นตระกูลอิโซะ ภายในจัดแสดงห้องพักส่วนต่างๆให้ได้ชมอย่างใกล้ชิดบริเวณด้านอกมองเห็นวิวอ่าวคาโกชิม่า กับ ภูเขาไฟซากุระจิมะ ได้อย่างชัดเจนซึ่งถือเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟที่สวยงามยิ่งนัก ภายในสวนด้านนอกเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่มีสระน้ำเล็กๆ ธารน้ำ ศาลเจ้า และทางเดินใต้ร่มเงาของป่าไผ่สวนนี้มีบรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ภายนอกสวนยังมีอาคารที่สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ที่สมัยก่อนเป็นโรงงานสไตล์ตะวันตก แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติของตระกูลชิมิซู ที่สร้างสวนแห่งนี้
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
18.00 น.  เรือออกจากท่า

22 มี.ค.63  เบปปุ , ญี่ปุ่น

**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
09.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ เบปปุ (Beppu) จังหวัดโออิตะ (Oita)ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของเกาะคิวชูเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำแร่ที่เป็นบ่อโคลน จัดเป็นเมืองที่มีรีสอร์ทน้ำแร่มากที่สุดนักท่องเที่ยวสามารถลองแช่น้ำแร่หลายหลากชนิดได้
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-บ่อน้ำพุร้อน (Jigokumeguri) : หรือ บ่อน้ำพุร้อนขุมนรกทั้งแปด เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้น ภายหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟ ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่เข้มข้น เช่น กำมะถัน แร่เหล็ก โซเดียม คาร์บอเนต เรเดียม เป็นต้น และร้อนเกินกว่าจะลงไปอาบได้ แล้วบ่อทั้ง 8 บ่อ ก็ตั้งชื่อให้น่ากลัวตามลักษณะภายนอกที่เห็นกัน ท่านจะได้พบกับ บ่อทะเลเดือดยูมิ-จิโกกุ (Umi Jigoku)  ซึ่งเป็น 1 ใน 8 บ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ เป็นบ่อที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมมากที่สุดเพราะมีความสวยงามดูเป็นนรกน้อยกว่าแห่งอื่น เป็นบ่อน้ำร้อนสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ด้วยความลึก 150 เมตร กำเนิดขึ้นหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีก่อน มีส่วนประกอบของแร่โคบอลต์ ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมารอบๆ บ่อตลอดเวลา อุณหภูมิของน้ำสูงถึง 98 องศาเซลเซียส
-ยุฟุอินอนเซ็น (Yufuin Onsen): เมืองเล็กๆ ในจังหวัดโออิตะ (Oita) เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนยอดนิยมในหมู่สุภาพสตรีด้วยน้ำแร่คุณภาพเข้มข้นที่ช่วยให้ผิวสวย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขายุฟุดาเกะ (Mt. Yufu-dake) พรั่งพร้อมด้วยบ่อแช่น้ำพุร้อนหลากรูปแบบ
-สวนลิงบนเขาทาคาซาคิ (Mt. Takasaki Monkey Park): ตั้งอยู่บริเวณเขาทาคาซาคิซึ่งจะเป็นป่าเขาที่อยู่ใกล้ๆเมืองเบปปุในจังหวัดโออิตะ สวนลิงบนเขาทาคาซาคินั้นเป็นบ้านของลิงป่าญี่ปุ่นอยู่อาศัยกว่า 1,500 ตัว โดยจะมีผู้ที่คอยให้อาหารและดูแลลิงเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้ลิงออกจากเขาลงไปรบกวนชาวบ้านที่ด้านล่าง
-ศาลเจ้ายูซะ (Usa Jingu Shrine) : ตั้งอยู่แถบๆส่วนฐานของแหลมคูนิซากิของเมืองนาคะสึในจังหวัดโออิตะ (Oita) นับว่าเป็นศาลเจ้าที่ค่อนข้างจะทรงอิทธิพลต่อศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นภายในแหลมคูนิซากิอย่างมาก ตัวอาคารหลักๆนั้นได้ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้เป็นมรดกของชาติ
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
16.00 น.  เรือออกจากท่า

23 มี.ค.63  ล่องทะเล ( At Sea )   

**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
วันนี้เป็นวันที่ท่านจะได้สนุกสนาน และเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมายบนเรือ ที่มีให้ทุกท่านร่วมสนุกกันตลอดทั้งวัน

24 มี.ค.63  เรือสำราญ Diamond Princess – โตเกียว (โยโกฮาม่า) – กรุงเทพ

06.30 น.  เรือเข้าเทียบท่า โตเกียว
เชคเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
***สำคัญมาก: ตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนออกจากท่าเรือ
…… น.  ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน ………  
…… น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดย สวัสดิภาพ

รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า
ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

หมายเหตุ ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ แทนได้***

อัตราค่าบริการ  : เดินทางวันที่ 15 – 24 มีนาคม 2563

** ค่าทิปบนเรือ ห้องไม่มีหน้าต่างและห้องมีระเบียง ท่านละ USD 130.50 (ชำระบนเรือ)