ทัวร์นราธิวาส ปัตตานี หาดใหญ่4 วัน 3 คืน 26 - 29 มี.ค.64 WE เที่ยวทั่วไทย เที่ยวใต้ ชีพจรลง South เที่ยวดินแดนลังกาสุกะ

รหัสสินค้า : CHIC-D006- NAW-PAN-HDY-WE

ไม่พบสินค้า

ราคา

15,900.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : ทัวร์ดินแดนลังกาสุกะชีพจรลง South นราธิวาส ปัตตานี หาดใหญ่4 วัน 3 คืน

โดยสายการบิน : Thai Smile  (WE ) - สุวรรณภูมิ

เดินทาง : 26 -29 มีนาคม 2564

รายละเอียด : หาดบ้านทอน วัดชลธาราสิงเห สะพานคอยร้อยปี หาดนราทัศน์ หมู่รูปปั้นนกเงือก มัสยิด 300 ปีตะโละมาเนาะ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พิพิธภัณฑ์ขุนละหาร น้ำตกปาโจ วังยะหริ่ง ปัตตานีสกายวอล์ค ริมอ่าวปัตตานี Sky Walk  เมืองโบราณยะรัง มัสยิดกรือเซ๊ะ มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตลาดน้ำคลองแห ย่านเมืองเก่าเมืองสงขลา เขาตังกวน พญานาคพ่นน้ำ สะพานเปรมติณสูลานนท์ มัสยิดกลางสงขลา ตลาดกิมหยง แวะเช็คอิน @The Signature Cafe Amazon ใหญ่ที่สุดของภาคใต้

**พักนราธิวาส 1 คืน /ปัตตานี 1 คืน /หาดใหญ่ 1คืน

ราคา 15,900 บาท

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง ,เที่ยวบินและเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

             
                 

 

เที่ยวไทย ทัวร์ในประเทศ : ชีพจรลง South ดินแดนลังกาสุกะ
นราธิวาส/ปัตตานี/หาดใหญ่4 วัน 3 คืน
บิน Thai Smile เข้านราธิวาส // บินออกหาดใหญ่
*หาดบ้านทอน วัดชลธาราสิงเห สะพานคอยร้อยปี
*หาดนราทัศน์ หมู่รูปปั้นนกเงือก มัสยิด 300 ปีตะโละมาเนาะ
*พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พิพิธภัณฑ์ขุนละหาร
*น้ำตกปาโจ วังยะหริ่ง ปัตตานีสกายวอล์ค ริมอ่าวปัตตานี Sky Walk
*เมืองโบราณยะรัง มัสยิดกรือเซ๊ะ มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี
*ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตลาดน้ำคลองแห ย่านเมืองเก่าเมืองสงขลา
*เขาตังกวน พญานาคพ่นน้ำ สะพานเปรมติณสูลานนท์
*มัสยิดกลางสงขลา ตลาดกิมหยง
*แวะเช็คอิน @The Signature Cafe Amazon ใหญ่ที่สุดของภาคใต้

วันแรก  สนามบินสุวรรณภูมิ – จังหวัดนราธิวาส-หาดบ้านทอน-วัดชลธาราสิงเหสะพานคอยร้อยปี-เขื่อนท่าพระยาสาย

05.30 น.  เช็คอินที่เคาน์เตอร์เช็คอิน B ประตู 1-2 สายการบิน Thai Smile
08.00 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินนราธิวาส โดยสายการบิน Thai Smile เที่ยวบินที่ WE293(บินตรง) (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 1.35 ชั่วโมง)
09.35 น.  เดินทางถึง สนามบินนราธิวาส หลังจากผ่านขั้นตอน และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ หาดบ้านทอน ตั้งอยู่ตำบลโคกเตียน หาดบ้านทอนเป็นหมู่บ้านชาวประมงไทยมุสลิม  ประกอบอาชีพการทำประมงพื้นบ้าน และเป็นแหล่งผลิตเรือกอและที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในนราธิวาส หาดบ้านทอน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนราธิวาส ห่างกันแค่เพียง 3 กิโลเมตร  มีชายหาดทอดยาว ทรายขาวสะอาดสวยสะดุดตา บรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลสีฟ้ามีความใสในระดับหนึ่ง มีความร่มรื่นของต้นมะพร้าวสูงขนาดใหญ่ปลูกเรียงรายกลายเป็นร่มเงาที่สร้างความสวยงามให้แก่ชายหาด  ความโดดเด่นของชายหาด คือ เรือกอและที่จอดเรียงรายริมหาดหลายลำ มีลวดลายสวยงามสะดุดตา นอกจากนี้จะได้สัมผัสกับวิถีประมงที่เรียบง่าย เห็นชาวบ้านนั่งซ่อมเรือ เก็บแหและอุปกรณ์ทำประมงต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ชายหาดแห่งนี้ที่ยังมีวิถีชาวเลแบบดั้งเดิมให้ได้เห็น
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านสวนอาหารริมน้ำ
จากนั้นพาท่านเยี่ยมชม “ วัดชลธาราสิงเห ” หรือ วัดพิทักพิทักษ์แผ่นดินไทยตั้งอยู่ที่ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ มีจุดเด่นที่สวยงามโดยอาคารสถาปัตยกรรมแต่ละหลังจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นมาก เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความเป็นพุทธ มุสลิม และจีน ภูมิทัศน์รอบวัดเป็นบรรยากาศริมน้ำ ซึ่งสามารถเป็นที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยว  จึงถือเป็นวัดที่มีความสำคัญอันทรงคุณค่าและเป็นศูนย์กลางด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น  และเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ เนื่องจากเป็นโบราณสถานของชาวไทยพุทธที่รัฐบาลไทยได้หยิบยกเป็นเหตุผลอ้างอิง ในการปกปันเขตแดนในปี 2441  ที่มีผลไม่ให้ดินแดนส่วนนี้ถูกผนวกเข้าในเขตของประเทศมาเลเซีย ทำให้ประเทศไทยไม่สูญเสียเอกราชไปเป็นอาณานิคมของอังกฤษ จึงได้สมญานามว่า “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย”  จากนั้นพาท่านเที่ยวชม สะพานคอยร้อยปีมีความยาว 345 เมตร เดิมเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวข้ามผ่านแม่น้ำตากใบจากแผ่นดินใหญ่ไปสู่ เกาะยาว จังหวัดนราธิวาส แต่ปัจจุบันได้มีการสร้างสะพานปูนแข็งแรงและสวยงามทอดยาวขนาบไปกับสะพานไม้อันเก่า กลายเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรของชาวบ้าน  ชื่อของสะพานมาจากที่ว่าเมื่อก่อนชาวบ้านเกาะยาวจะเดินทางมายังฝั่งที่ว่าการอำเภอต้องใช้เรือ กว่าจะมีการสร้างสะพานระหว่างเกาะยาวไปยังฝั่งที่ว่าการอำเภอต้องคอยถึง 100 ปี จึงเป็นสาเหตุให้เรียกสะพานดังกล่าวว่า “สะพานคอย 100 ปี”  ได้เวลาพอสมควรนำท่านชมวิว ทิวทัศน์ที่ หาดนราทัศน์ ซึ่งอยู่ทางฝั่งอ่าวไทย และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหาดที่สวยที่สุดในฝั่งอ่าวไทยเลยก็ว่าได้  และไปถ่ายภาพที่ระลึกกับ หมู่รูปปั้นนกเงือกตั้งอยู่ริมเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งเทศบาลเมืองนราธิวาสดำเนินการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ โดยปั้นรูปนกเงือกหลากหลายชนิดกว่า 100 ตัว ไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วลานกว้าง เพื่อสร้างให้เป็นแลนด์มาร์ค และจุดเช็กอินของจังหวัดนราธิวาส ทั้งยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในพื้นที่
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร มังกรทอง
พักค้างคืน ที่ โรงแรมตันหยง  หรือ เทียบเท่า

วันที่สอง มัสยิด 300 ปี ( มัสยิดวาดีลฮูเซ็น ) - วัดเขากง (พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล)-พิพิธภัณฑ์ขุนละหาร - น้ำตกปาโจ - วังยะหริ่ง - ปัตตานีสกายวอล์ค

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางสู่ จังหวัดปัตตานีเพื่อเยี่ยมชม และไปนมัสการพระพุทธทักษิณมิ่งมงคลตั้งอยู่ที่ พุทธอุทยานเขากง ห่างจากตัวเมืองนราธิวาส  9 กิโลเมตร  จะมองเห็นวัดเขากงและพระพุทธรูปทักษิณมิ่งมงคลสีทองปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ประดิษฐานในปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา มีพุทธลักษณะตามแบบศิลปะสกุลช่างอินเดียตอนใต้ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 องค์พระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกสีทอง หน้าตักกว้าง 17 เมตร ความสูงวัดจากพระเกศบัวตูมถึงบัวใต้พระเพลา 24 เมตร หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย องค์พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลได้ประดิษฐานอย่างมั่นคงคู่กับจังหวัดนราธิวาส และดินแดนภาคใต้ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจและเป็นที่สักการะบูชาอย่างสูงของชาวพุทธในดินแดนภาคใต้ ต่อด้วยการเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ ขุนละหารที่อำเภอยี่งอ พิพิธภัณฑ์ขุนละหาร แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้กับเยาวชนรุ่นหลัง โดยมีกิจกรรมให้เด็กในชุมชนช่วงปิดเทอม เช่น เรียนรู้เรื่องศิลปะป้องกันตัว ท้องถิ่นเรียกว่า ซีละ หรือ การรำตารีอีนา จากนั้นพาท่านมุ่งหน้าสู่ มัสยิดวาดีลเซ็นหรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ หรือ มัสยิด 300 ปีตั้งอยู่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ นายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2167 เริ่มแรกสร้างด้วยหลังคามุงใบลาน ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา ลักษณะของมัสยิดมีความแตกต่างจากมัสยิดทั่วไป คือเป็นอาคาร 2 หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ลักษณะการสร้างจะใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีนและมลายู ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ตั้งอยู่บนหลังคา ส่วนหลัง  ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน ด้านข้างมัสยิดมีสุสานชาวมุสลิม ถ้าเป็นของผู้ชายหินที่ประดับอยู่บนหลุมฝังศพจะมีลักษณะกลม ถ้าเป็นของผู้หญิงจะเป็นหินเพียงซีกเดียว ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจ หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน โดยทั่วไปเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารในอำเภอบาเจาะ
พาท่านเที่ยวชม น้ำตกปาโจสถานที่ท่องเที่ยวอันลือชื่อแห่งหนึ่งของ จ.นราธิวาส เป็นส่วนหนึ่งของอุทยาน แห่งชาติบูโด – สุไหงปาดี น้ำตกปาโจ  เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าบูโดที่มีน้ำตลอดปี แต่ในหน้าแล้งน้ำค่อนข้างน้อย  ตัวน้ำตกมี 4  ชั้น ชั้นแรกมีขนาดใหญ่และสวยที่สุด สายน้ำไหลตกจากลานผาหินกว้าง สูง 60 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ หลังจากนั้น พาท่านไปเที่ยวชม วังยะหริ่ง หรือวังเจ้าเมืองยะหริ่ง ตั้งอยู่ที่ ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2428 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระยาพิพิธเสนามาตยาธิบดีศรีสุรสงคราม เจ้าประเทศราชเมืองยะหริ่ง อันดับ 3 ซึ่งเป็นบุตรของพระยาพิบูลเสนานุกิจพิเชษฐ์ภักดี พระยาเมืองยะหริ่งอันดับที่ 2 ในอดีตเมืองยะหริ่งเป็นประเทศราชของไทย ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการด้วยต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง ให้แก่ไทย 3 ปี ต่อ 1 ครั้งและต้องส่งทหารไปช่วยรบยามเกิดศึกสงคราม เรือนไม้กึ่งปูน สร้างขึ้นแบบสไตล์ยุโรป ผสมผสานศิลปกรรมพื้นเมือง และชวา ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองยะหริ่งในปัจจุบัน นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวยะหริ่งยิ่งนัก เพราะสถาปัตยกรรมทรงคลาสสิคหลังนี้ ได้ทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนจากต่างแดนอยู่เป็นกิจวัตร ต่อด้วยการไปเที่ยวชมปัตตานีสกายวอล์ค ริมอ่าวปัตตานี Sky Walk  แห่งแรกของจังหวัดปัตตานี ที่ตั้งอยู่ในสวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จ.ปัตตานี ก็มีนักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนมาก พากันขึ้นไปชมสวยงามตลอดทั้งวัน โดยผู้สร้างยังหวังให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะเป็นศูนย์รวมคนต่างวัฒนธรรม ต่างศาสนา มองเห็นความงดงามของท้องทะเลอ่าวไทยที่มีแหลมตาชีคั่นกลาง ส่วนเบื้องล่างเป็นทิวป่าโกงกางขึ้นหนาแน่น เป็นอีกมุมมองใหม่ที่จะสัมผัสได้ จากการขึ้นมายืนบน Sky walk ปัตตานีแห่งนี้
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในเมืองปัตตานี
พักค้างคืน ที่ โรงแรม CS ปัตตานี หรือ เทียบเท่า

วันที่สาม  เมืองโบราณยะรัง – มัสยิดกรือเซะ - ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว – มัสยิดกลางปัตตานี – ตลาดน้ำคลองแห ( มีเฉพาะวันศุกร์/เสาร์/อาทิตย์ ) - อ.หาดใหญ่

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น.  เตรียมตัวออกเดินทาง ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี พาท่านไปชมเมืองโบราณยะรัง เมืองโบราณยะรัง มีอายุ 1,000 ปี ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีเมืองโบราณยะรัง มีผังเมืองเป็นรูปวงรีขนาดใหญ่ในพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองที่มีการสร้างทับซ้อนกันถึง 3 เมือง ขยายตัวเชื่อมต่อกัน เมืองโบราณยะรังเป็นชุมชนที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีเป็นอย่างมาก อาจมีความสัมพันธ์กับอาณาจักร "ลังกาสุกะ" ซึ่งเป็นอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดอาณาจักรหนึ่งบนคาบสมุทรมลายู มีหลักฐานอยู่ในเอกสารจีน อาหรับ ชวา และมลายู ในราวพุทธศตวรรษที่ 13 และสันนิษฐานว่าน่าจะมีศูนย์กลางอยู่ในบริเวณจังหวัดปัตตานีในปัจจุบัน และอาจมีอิทธิพลคลุมไปถึงรัฐไทรบุรี ของสหพันธรัฐมาเลเซียด้วย อีกทั้งจะต้องเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ตั้งอยู่ใกล้ทะเล และเป็นดินแดนที่มีความมั่นคง มีบทบาททางการเมือง ทางเศรษฐกิจ เกี่ยวข้องกับดินแดนใกล้เคียงอยู่เสมอและได้ทำการติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศอย่างกว้างขวาง มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12   ต่อด้วยการไปเยี่ยมชม มัสยิดกรือเซ๊ะ หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในจังหวัดปัตตานี สันนิษฐานได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 ร่วมสมัยกรุงศรีอยุธยามีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามัสยิดปิตูกรือบันชื่อนี้เรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบกอทิกของชาวยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพี่อูม ในปัตตานี
จากนั้นพาท่านไปถ่ายภาพมัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองปัตตานีที่ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีความโดดเด่น และยังเป็นศาสนสถาน ศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง รูปทรงภายนอกของมัสยิดมีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล เป็นสถานที่เมื่อมาถึงปัตตานี ต้องมาชมศิลปะและความสวยงามของตัวอาคาร มัสยิดแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย พาท่านเยี่ยมชม ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ความศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองปัตตานีมาแต่โบราณ ตั้งอยู่ในตัวเมืองปัตตานี เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศูนย์รวมจิตใจและศูนย์รวมศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนในปัตตานี ในต่างจังหวัด และในต่างประเทศ ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า “ศาลเจ้าเล่งจูเกียงหรือชื่อที่ชาวบ้านเรียก“ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว”เมื่อได้เวลาพอสมควรพาท่านเดินทางมุ่งสู่เมืองหาดใหญ่ เพื่อไปเที่ยวและซื้อสินค้าพื้นเมือง ที่ตลาดน้ำคลองแห ตั้งอยู่ในบริเวณวัดคลองแห  ตำบลคลองแห เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของภาคใต้ จำลองวิถีชีวิตดั้งเดิมคือการค้าขายทางน้ำของชาวบ้านคลองแห ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือนำสินค้ามาขาย และมีร้านค้าที่ริมฝั่งมากมายให้เดินเลือกชมอย่างเพลิดเพลิน ทั้งขนมพื้นเมืองและอาหารปักษ์ใต้หลากหลายชนิดภาชนะที่ใส่อาหารใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง กะลามะพร้าว ไม้ไผ่  เป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกและแห่งเดียวของภาคใต้ ผสมผสานระหว่างตลาดที่จำหน่ายสินค้าในเรือ และตลาดโบราณจำหน่ายสินค้าบนบก ตลาดน้ำเปิดวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์  เวลา 16.00-21.00 น.
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ แบบบุปเฟต์ ณ ตลาดน้ำคลองแห
พักค้างคืน ที่ The Signature Airport Hotel หรือ เทียบเท่า

วันที่สี่  อ.หาดใหญ่ - เขาตังกวง - หาดสมิหลา - พระพุทธมงคล มหาราช – มัสยิดกลางสงขลา ( ทัชมาฮาล เมืองไทย ) - ตลาดกิมหยง - @ Café Amazon - กรุงเทพมหานคร

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น.  พาท่านออกเดินทางไปเยียมชม  ย่านเมืองเก่าเมืองสงขลาตั้งอยู่ย่านถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงามถนนทั้งสามสายนี้มีเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ซึ่งก็ได้เกิดจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีน สถาปัตยกรรมชิโนยูโรเปียน สถาปัตยกรรมผสม และสถาปัตยกรรมร่วมสมัย สถาปัตยกรรมเหล่านี้ต่างก็มีความงดงามที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ย่านเมืองเก่าสงขลาแห่งนี้ เป็นแหล่งเรียนรู้ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ได้เป็นอย่างดี โดยมีการเล่าเรื่องราวจิตรกรรมผ่านฝาผนังของอาคารและบ้านเรือน เพื่อสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น และเพื่อเป็นสถานที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม จังหวัดสงขลาอีกด้วย
จากนั้นพาท่านขึ้นไปชมเขาตังกวนซึ่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในอ.เมือง จ.สงขลา   เป็นเนินเขาสูง จากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 ฟุต จากยอดเขาตังกวนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้โดยรอบ บนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมือง สงขลาซึ่งสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี(อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 ฟุต ) โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) ได้พระราชทานเงินหลวงให้เป็นทุนในการบูรณะปฏิสังขรณ์ และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน (ร.9) ได้ทรงพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุให้มาบรรจุในองค์พระเจดีย์ในทุกๆ ปีในเดือนตุลาคม จะมีงานพิธีห่มผ้าองค์พระเจดีย์ และประเพณีตักบาตรเทโวและลากพระของสงขลา   จากนั้นพาไปถ่ายภาพกับ พญานาคพ่นน้ำ แลนด์มาร์คของทะเลสาบสงขลาเมอร์ไลออนเมืองไทย เที่ยวชมชายหาดสมิหลา ถ่ายรูปกับรูปปั้นนางเงือก
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านริมหาดสมิหลา
พาข้ามสะพานเปรมติณสูลานนท์เพื่อไปเกาะยอ ซื้อของฝากร้านริมทางที่มีอาหารทะเลตากแห้งให้เลือกซื้อมากมาย ต่อด้วยไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสงขลา พระพุทธมงคลมหาราชบนยอดเขาคอหงส์ จากนั้นพาท่านไปเยี่ยมชมมัสยิดกลางสงขลา หรือทัชมาฮาลเมืองไทย  ต่อด้วยพาไปช๊อปปิ้ง ตลาดกิมหยง ตลาดกิมหยงมีสินค้าให้เลือกซื้อเลือกหาแทบ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ขนมขบเคี้ยว เครื่องสำอางค์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเด็กเล่น แว่นตา ตลอดจนเครื่องใช้ในครัวเรือน ได้เวลาพอสมควรนำท่านสู่ สนามบินหาดใหญ่ ระหว่างทางแวะเช็คอิน คาเฟ่ต์ ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้@ Café Amazonอิสระให้ท่านได้พักผ่อนหรือรับประทานอาหารตามอัธยาศัย
18.30 น.  ออกเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่
20.55 น.  ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Thai Smile เที่ยวบินที่WE268
22.20 น.  เดินทางถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

#Chic Journey Southern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

เดือน

วันเดินทาง

ราคา

พักเดี่ยวเพิ่ม

ที่นั่ง

มีนาคม 2564

26 - 29

15,900

2,000

   9

Visitors: 233,906