เที่ยวเหนือหน้าหนาว ทัวร์น่าน ปัว สกาด สะปัน บ่อเกลือ 4วัน 3คืน เที่ยวน่าน จุดชมวิว คาเฟ่เดอะวิวกิ่วม่วง ถนนหมายเลข3 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 ชมวิวดอยสกาด สกาดกม. 8 สกาดดีโฮมสเตย์ กาแฟไทลื้อ

รหัสสินค้า : CHIC-I002-THV703-NAN4D3N

ไม่พบสินค้า

ราคา

6,900.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวเหนือหน้าหนาวทัวร์น่าน ปัว สกาด สะปัน บ่อเกลือ 4วัน 3คืน

โดย : รถตู้ VIP

เดินทาง : มกราคม - มีนาคม 2564

รายละเอียด : พิษณุโลก เนินมะปราง จุดชมวิวค้างคาว ภูเขาหินปูน พิษณุโลก แคมป์หมาบ้าใจดี จังหวัดน่าน ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน จุดชมวิว คาเฟ่เดอะวิวกิ่วม่วงถนนหมายเลข 3 ชมวิวสะพานหมู่บ้านสะปัน บ่อเกลือโบราณ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 ปัว ชมวิวดอยสกาด สกาด กม. 8 สกาดดีโฮมสเตย์ วัดภูเก็ต ลําดวนผ้าทอ กาแฟไทลื้อ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ วัดศรีมงคล (ก๋ง) วัดภูมินทร์ อุโมงค์ต้นไม้ลีลาวดี วัดศรีพันต้น วัดมิ่งเมือง ศาลหลักเมือง วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุเขาน้อย ราคาเริ่มต้น 6,900 บาท

**พักเมืองน่าน 1คืน , ปัว 2คืน 

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

             
                 

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวเหนือหน้าหนาว
ทัวร์น่าน ปัว สกาด สะปัน บ่อเกลือ 4วัน 3คืน

พักเมืองน่าน 1 คืน , ปัว2 คืน 
เดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ 
**ราคาเริ่มต้น 6,900 บาท เดินทางเดือนมกราคม-มีนาคม 2564

วันแรก จุดนัดพบปั๊ม Shell แม็คโครแจ้งวัฒนะ - เนินมะปราง จุดชมวิวค้างคาว ภูเขาหินปูน-พิษณุโลก – แคมป์หมาบ้าใจดี - น่าน – ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน  (อาหาร: เที่ยง/---)

06.00 น.     พร้อมกันที่จุดนัดหมายปั๊ม Shell แม็คโครแจ้งวัฒนะ เจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ทุกท่าน มีการพ่นยาฆ่าเชื้อในรถ เช็คอุณหภูมิร่างกาย และมีบริการหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ท่านละ1ชุด สมควรแก่เวลาออกเดินทางสู่จังหวัดน่าน โดยรถตู้ปรับอากาศ ระหว่างทางนำท่านแวะ จ.พิษณุโลก แวะเนินมะปรางอำเภอเล็กของพิษณุโลก ตื่นตากับกุ้ยหลินเมืองไทยและฝูงค้างคาว เนินมะปรางมีความโดดเด่นท่ามกลางธรรมชาติของภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างแปลกตาที่สวยงาม ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้เขียวขจี ชมวิวภูเขาหินปูนและจุดชมวิวค้างคาวที่บ้านมุง จากนั้นเดินทางสู่แคมป์หมาบ้าใจดีเป็นแลนด์มาร์คเอาใจคนรักธรรมชาติและชื่นชอบศิลปะ เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชุมชน และแหล่งธรรมชาติในบริเวณเขาหินปูนที่บ้านมุงนี้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 1)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อสู่จังหวัดน่าน ถึงจังหวัดน่าน นำท่านเดินทางไปช้อป ไปชิม สัมผัสวัฒนธรรมพื้นเมือง ถนนคนเดิน กาดข่วงเมืองน่าน  หน้าวัดภูมินทร์ ตลาดกลางคืนที่นี้ เปิดทุกศุกร์-อาทิตย์ เป็นถนนคนเดินที่ไม่ยาวมาก จุดเริ่มต้นจะอยู่บริเวณสี่แยกวัดพระธาตุช้างค้ำ บนถนนผากอง ระหว่างลานข่วงเมือง หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไปถึงสามแยกถนนจันทรประโชติ เยื้องๆ หน้าวัดภูมินทร์ ระยะทางประมาณ 500 เมตร ส่วนใหญ่เป็นของที่ระลึกที่ทำให้นึกถึงเมืองน่าน ของแฮนด์เมดต่างๆ มีของกินของอร่อยพื้นเมืองจำนวนมาก อิสระให้ท่านเดิน เพลินๆ เลือกซื้ออาหารมากมาย ทั้ง อาหารพื้นเมือง ผักผลไม้ หรือเสื้อผ้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึกจากจังหวัดน่านตามอัธยาศัย
***อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย***
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรมเมืองน่าน
ที่พัก: โรงแรมน้ำทองน่าน /โรงแรม ดิ อิมเพรส น่านหรือระดับเทียบเท่ากัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 3-5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สอง เมืองน่าน – จุดชมวิว คาเฟ่เดอะวิวกิ่วม่วง - ถนนหมายเลข 3 – ชมวิวสะพานหมู่บ้านสะปัน –บ่อเกลือโบราณ - อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 – ปัว  (อาหาร: ช้า/เที่ยง/เย็น )

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
นำท่านเดินทางสู่ คาเฟ่เดอะวิว @ กิ่วม่วงร้านกาแฟวิวดี ที่ตั้งอยู่ริมทางไหล่เขา บนเส้นทางระหว่าง อ.เมืองน่าน-สันติสุข ซึ่งมีวิวทิวทัศน์สวยงามสามารถมองเห็นวิวภูเขาเขียวขจี และมีการตกแต่งร้านสไตล์ล้านนาที่เข้ากับธรรมชาติ จากนั้นเดินทางผ่านเส้นทางที่เป็นหุบเขาสลับทับซ้อนกันหลายลูก ให้ท่านชมอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดน่านคือ โค้งเลข3หรือถนนหมายเลข3ที่อยู่บนทางหลวงหมายเลข 1081 ระหว่างการเดินทาง ท่านจะได้สัมผัสกับความรู้สึก เหมือนกำลังนั่งรถอยู่บนถนนลอยฟ้า ที่ถูกล้อมลอบด้วยภูเขา ท่ามกลางป่าใหญ่ และไอหมอก จากนั้นไปถ่ายรูปชิคๆ เช็คอินที่จุดชมวิวสะพานหมู่บ้านสะปันอยู่ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ 9 กิโลเมตร ชุมชนเล็กๆ ท่ามกลางธรมชาติ ผืนป่า และขุนเขา มีลำธารไหลผ่านตลอดสาย ซึ่งจุดชมวิวจะอยู่บริเวณหน้าวัดบ้านสะปัน เมื่อมองจากมุมสูง จะเห็นเป็นวิวหมู่บ้าน ถูกโอบล้อมด้วยทุ่งนา กลางหุบเขา ทัศนียภาพสมบูรณ์สวยงามมาก
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 3)
นำท่านไปชม บ่อเกลือ สินเธาว์ โบราณ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของอำเภอบ่อเกลือ ถูกขนานนามว่าเป็นนาเกลือกลางหุบเขา ท่านจะได้เห็นกระบวนการทำเกลือของของคนพื้นเมือง สำหรับนักสะสม ที่นี่ก็มีผลิตภัณฑ์พื้นเมืองให้เลือกซื้อมากมาย นำท่านผ่านชมถนนลอยฟ้า ถนนหลวงหมายเลข 1256อีกหนึ่งเส้นทางที่งดงาม เป็นเส้นทางจากอำเภอบ่อเกลือ สู่อำเภอปัว ภาพฝันในม่านหมอก ระหว่างทางแวะชมวิวสวยๆ ณ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 หนึ่งในจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางผ่านถนนสายนี้ ยิ่งถ้าไปช่วงฤดูฝน หรือปลายฝนต้นหนาวจะได้เห็นหมอกหนาสวยสุดตา จากนั้นมุ่งหน้าสู่ อำเภอปัวเมืองแห่งทุ่งนากลางหุบเขา
เย็น บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 4)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรมปัว
ที่พัก: อูปแก้ว รีสอร์ท ปัว หรือระดับเทียบเท่ากัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 3-5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สาม ชมวิวดอยสกาด สกาด กม. 8 – สกาดดีโฮมสเตย์ - วัดภูเก็ต – ลําดวนผ้าทอ กาแฟไทลื้อ –ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ- วัดศรีมงคล (ก๋ง) – ปัว  ( อาหาร : เช้า/เที่ยง/เย็น  ) 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)
นำท่านเดินทางสู่ดอยสกาดตั้งอยู่ในอำเภอปัว บนเทือกเขาดอยภูคา ห่างจากตัวเมืองปัวประมาณ 22 กม.นำท่านไปชมวิวสวยๆ ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ชมวิถีชีวิต หมู่บ้านเล็กคนท้องถิ่นที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย นำท่านสู่ สกาด กม.8ให้ท่านอิสระถ่ายรูป ดริปกาแฟไปพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศของวิวภูเขายามเช้ากับสายหมอกที่ลอยไปมาท่ามกลางภูเขา หากวันใดฟ้าท่านสามารถเรามองเห็นวิว อ.ปัวได้ ที่นี่จะบริการในส่วนของที่พักและโซนร้านกาแฟแก่นักท่องเที่ยวด้วย และเดินทางสู่ สกาดดีโฮมสเตย์ ที่นี่ท่านก็สามารถชมวิวที่สวยงามพร้อมอิสระเลือกซื้อ จิบชา ดริปกาแฟ ชมวิวได้ นำท่านไปเสริมสิริมงคลที่ วัดภูเก็ตวัดตั้งอยู่ในหมู่บ้านเก็ต และอยู่บนบนเนินเขา ซึ่งชาวเหนือจะเรียกเขาว่า “ดอย หรือ ภู” ส่งผลให้วัดแห่งนี้มีชื่อว่าภูเก็ต โดยตั้งชื่อตามภูมิที่ตั้งอยู่ ไฮไลท์ของวัดนี้อยู่ที่ลานของโบสถ์ เมื่อมองออกไป จะเห็นเป็นวิวทุ่งนาเขียวขจี โอบล้อมโดยทิวเขาน้อยใหญ่
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 6)
นำท่านมาเติมคาเฟอินถ่ายรูปเช็คอินที่ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ และลําดวนผ้าทอ ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงอำเภอปัว ด้านหน้าเป็นลำดวนผ้าทอ ร้านจำหน่ายผ้าทอลายน้ำไหลไทลื้อ และสินค้าของฝากจากเมืองน่าน จิบกาแฟริมนาในบรรยากาศไทลื้อ
จากนั้นเดินทางสู่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำทีนี่บริการที่พัก ร้านอาหารและยังเป็นฟาร์มเห็ดที่ผลิตเชื้อเห็ดที่ใหญ่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอปัวและของจังหวัดน่านด้วย อิสระให้ท่านเลือกซื้อชิมเมนูสารพัดจากเห็ดสุดอร่อยและพลาดไม่ได้กับเมนูลือชื่อ พิซซ่าเห็ด ที่ใครๆมาก็ต้  องลิ้มลอง นอกจากนี้ยังมีงานผ้าเขียนเทียนสวยๆ งานย้อมคราม งานทำมือ ซึ่งเป็นศิลปะของชาวม้งจำหน่ายด้วย จากนั้นเดินทางต่อสู่  วัดศรีมงคล (ก๋ง)เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2395 พระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือ หลวงปู่ก๋ง ด้านหลังวัดมีลานชมวิว ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงาม มองเห็นทุ่งนาเขียวขจี และทิวเขาของดอยภูคาเรียงรายสลับซับซ้อน โดยบริเวณลานชมวิว ทางวัดได้จัดทำเป็นซุ้มและจุดชมวิวให้ถ่ายภาพหลายจุด รวมถึงร้านกาแฟบรรยากาศไทยๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งวิหารหลวงที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม โดยเลียนแบบการวาดของหนานบัวผัน จิตรกรชาวน่านเชื้อสายไทลื้อ ซึ่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และวัดหนองบัวของจังหวัดน่าน รวมถึงพิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี ซึ่งรวมรวมของโบราณต่างให้ได้ชม บรรยากาศโดยรอบของวัด เน้นตกแต่งแบบไทยล้านนา อนุรักษ์ของเก่าแก่ในอดีต ด้านหน้ายังเป็นที่ตั้งของกระท่อมไม้ไผ่ ชื่อว่าเฮือนมะเก่า ภายในบ้านมีข้าวของเครื่องใช้โบราณ สามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพได้
เย็น  บริการอาหารเย็น(มื้อที่ 7)
หลังทานอาหารนำท่านเข้าที่พักอำเภอปัว
ที่พัก: อูปแก้ว รีสอร์ท ปัว หรือระดับเทียบเท่ากัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สี่  ปัว - วัดภูมินทร์ – อุโมงค์ต้นไม้ลีลาวดี – วัดศรีพันต้น – วัดมิ่งเมือง – ศาลหลักเมือง –วัดพระธาตุแช่แห้ง – วัดพระธาตุเขาน้อย – กรุงเทพฯ  ( อาหาร : เช้า/เที่ยง/-- )

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 8)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ อ.เมืองน่าน (ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง) เดินทางสู่ วัดภูมินทร์เดิมชื่อ วัดพรหมมินทร์เป็นวัดหลวงเก่าแก่ มีอายุกว่า 400 ปี ความสวยที่แปลกกว่าวัดอื่นของวัดภูมินทร์ คือ เป็นพระอุโบสถและพระวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกัน เป็นทรงจัตุรมุข สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ที่รวมเอาโบสถ์ วิหาร และเจดีย์ ไว้ในอาคารเดียวกัน ในส่วนจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารหรือที่เรียกกันว่า ฮูปแต้ม ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงที่วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) และใช้เวลาซ่อมนานถึง 7 ปี ภาพปู่ม่านย่าม่าน ที่ได้รับฉายาว่า ภาพกระซิบรักบรรลือโลก อาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม ปราชญ์เมืองน่าน ได้แต่งคำกลอนอันสุดแสนโรแมนติกเป็นภาษาเหนือเพื่อบรรยายถ้อยคำกระซิบของปู่ม่านย่าม่าน อิสระให้ท่านชมภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังสีฝุ่น เล่าเรื่องชาดก ตำนานพื้นบ้าน และความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต เสมือนเป็นการบันทึกเรื่องราวของจังหวัดน่าน ผ่านงานจิตรกรรม ลงบนผนังสีฝุ่น และบริเวณรอบๆวัดภูมินทร์ มีของที่ระลึก ขนมไทย สินค้าพื้นบ้านจำหน่ายมากมาย บริเวณใกล้กันท่านสามารถชมอุโมงค์ลีลาวดีซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทมอยู่บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่านที่ขึ้นเป็นแถวเรียงรายแผ่ขยายกิ่งก้านโค้งเข้าหากัน ราวกับอุโมงค์ต้นไม้ยิ่งใหญ่อลังการ ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ให้ท่านเก็บภาพ ถ่ายรูปสวยๆเช็คอินกัน สามารถเดินเพลินๆ ชมวิวทิวทัศน์ตลอดสองฝั่งข้างทาง
เดินทางสู่ วัดศรีพันต้น สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่าน ระหว่าง พ.ศ. 1960 - 1969 ) ชื่อวัดตรงกับนามผู้สร้าง คือพญาพันต้น บางสมัยเรียกว่า วัดสลีพันต้น (คำว่า สลี หมายถึง ต้นโพธิ์) ซึ่งในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด ปัจจุบันถูกโค่นเพื่อตัดเป็นถนนแล้ว วัดศรีพันต้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2505 ภายในวัดมีวิหารที่สวยงาม ตั้งเด่นเป็นสง่ามีสีทองระยิบระยับ เป็นอีกวัดหนึ่งในจังหวัดน่านที่มีจิตรกรรมปูนปั้นที่สวยงามโดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียร เฝ้าบันได หน้าวิหารวัด สีทองเหลืองอร่ามสวยงามตระการตา มีความสวยงามมาก  ดูอ่อนโยนมีชีวิตชีวา ซึ่งปั้นแต่งโดยช่าง ชาวน่านชื่อ นายอนุรักษ์ สมศักดิ์ หรือ "สล่ารง" และภายในวิหารได้มีการเขียนภาพลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้า และประวัติ การกำเนิด เมืองน่าน โดยช่างชาวน่าน เป็นภาพ เขียนลายเส้นลงสีธรรมชาติสวยงามและทรงคุณค่าอย่างยิ่ง จากนั้นเดินทางสู่ เสาหลักเมืองน่าน ณ วัดมิ่งเมืองจุดเด่นสำคัญของวัดแห่งนี้ คือลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกอุโบสถ ออกแบบโดยช่างฝีมือจากเชียงแสน ประณีต งดงามมาก นำท่านกราบสักการะ วัดพระธาตุแช่แห้งเป็นวัดเก่าแก่ที่สวยงามมาก และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีเถาะ มีการจัดงานนมัสการพระธาตุในเดือน 4 หรือประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองน่าน ศูนย์รวมศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของผู้คน โดยตั้งอยู่บนเนินทางฝั่งตะวันออกอันเป็นศูนย์กลางของเมืองน่านเดิม หลังจากที่ย้ายมาจากเมืองปัว ทางขึ้นสู่องค์พระธาตุเป็นตัวพญานาค หน้าบันไดเหนือประตูทางเข้าพระวิหารเป็นปูนปั้นลายนาคเกี้ยว ถือเป็นเอกลักษณ์ศิลปกรรมน่าน เชื่อกันว่าหากได้เดินทางไป "ชุธาตุ" หรือนมัสการสักครั้ง จะได้รับอานิสงส์อย่างยิ่งใหญ่
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 9)
นำท่านสู่ วัดพระธาตุเขาน้อยแลนด์มาร์คสำคัญอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดน่าน ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อยมีองค์พระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน พระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ตั้งสง่างามอยู่บนยอดเขาอย่างสวยสดงดงาม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ กรุงเทพมหานคร (ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง) ถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

#Chic Journey…Northern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการและวันเดินทาง

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

ราคาเด็ก 2-6 ปี
ไม่เสริมเตียง

พักเดี่ยว/เดินทางคนเดียว เพิ่ม

ที่นั่ง

 

หมายเหตุ

8-11 มกราคม 64

6,900

ไม่มีราคาเด็ก

2,000

16

 

22-25 มกราคม 64

6,900

2,000

16

 

29มกราคม-1กุมภาพันธ์

6,900

2,000

16

 

5-8 กุมภาพันธ์ 64

6,900

2,000

16

 

12-15 กุมภาพันธ์ 64

6,900

2,000

16

 

26 กุมภาพันธ์-1มีนาคม

7,900

2,000

16

 

5-8 มีนาคม 64

6,900

2,000

16

 

12-15 มีนาคม 64

6,900

2,000

16

 

26-29 มีนาคม 64

6,900

2,000

16

 

Visitors: 234,110