เที่ยวทั่วไทย ทัวร์น่าน นั่งรถ 4่วัน 2คืน ธ.ค.63-ม.ค.64 หมู่บ้านสะปัน ชมบ่อเกลือสินเธาว์ ถ่ายรูปกับจุดชมวิว 1715 ชมเรือนเจ้านายล้านนาที่โฮงเจ้าฟองคำ ร้านกาแฟไทลื้อกับวิวพันล้าน ทัวร์ปีใหม่ เที่ยวน่าน

รหัสสินค้า : CHIC-B006-NANTH24-VAN

ไม่พบสินค้า

ราคา

5,599.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวหน้าหนาว @มหัศจรรย์ ทัวร์น่าน 4วัน 2คืน

โดย : รถตู้ปรับอากาศ

เดินทาง : ธันวาคม 2563 - ปีใหม่ 2564 ( **ปีใหม่ 30 ธ.ค. 63-02 ม.ค. 64 )

รายละเอียด : น่าน วัดบุญยืน เที่ยวรอบเมืองน่าน เสาพระหลักเมืองน่าน วัดมิ่งเมือง วัดภูมินทร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุเขาน้อย ถนนคนเดินเมืองน่าน บ่อเกลือ ถนนลอยฟ้า 1081 บ่อเกลือสินเธาว์ หมู่บ้านสะปัน ชมวิวจุดชมวิวดอยภูคา 1715 ถนนลอยฟ้า อำเภอปัว ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ วัดภูเก็ต วัดศรีมงคล ถนนคนเดินปัว แพร่ วัดพระธาตุช่อแฮ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร สักการะพระพุทธชินราช

ราคาเริ่มต้น 5,599 บาท

**พักเมืองน่าน 1คืน , ปัว 1คืน 

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

             
                 

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวน่านหน้าหนาว...เติมความสุขให้กับชีวิต
หมู่บ้านสะปัน มหัศจรรย์ ทัวร์น่าน 4วัน 2คืน
( น่าน แพร่ พิษณุโลก )
เดินทาง ธันวาคม 2563 , ปีใหม่ 30 ธ.ค. 63 - 02 ม.ค. 64 
**สักการะ 3 สิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง ทั้ง น่าน แพร่ และพิษณุโลก
**ไหว้พระธาตุประจำปีเกิด 2 แห่งในทริปเดียว
**ชมบ่อเกลือสินเธาว์....เที่ยวหมู่บ้าน สะปัน....แวะถ่ายรูปกับจุดชมวิว 1715
**ชมเรือนเจ้านายล้านนาที่โฮงเจ้าฟองคำ....แวะชิลที่ร้านกาแฟไทลื้อกับวิวพันล้าน
**ช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินปัว…พิเศษ!!เมนูข้าวซอยรสเลิศ
**นอนเมืองปัว 1 คืน กับบรรยากาศแสนสงบ
**แวะเสริมสิริมงคลไหว้พระพุทธชินราช องค์งามแห่งสุโขทัย

วันแรก  กรุงเทพฯ - น่าน(อาหาร : -/-/เย็น Set Box)

22.00 น. พร้อมกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ดินแดง-วิภาวดี โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.00 น.   ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่  จังหวัดน่านโดยรถตู้ V.I.P
( *บริการอาหารกล่องพร้อมเครื่องดื่มบนรถ* )

วันที่สอง  น่าน  - วัดบุญยืน - เที่ยวรอบเมืองน่าน - เสาพระหลักเมืองน่าน - วัดมิ่งเมือง - วัดภูมินทร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน •วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร - วัดพระธาตุแช่แห้ง - วัดพระธาตุเขาน้อย - ถนนคนเดินเมืองน่าน  ( อาหาร : เช้า/กลางวัน/ -)

07.00 น.  เดินทางถึงวัดบุญยืน เสริมสิริมงคลกันในที่แรก พร้อมชมความงามสไตล์เมืองเหนือ และยังเป็นพระอารามหลวงอีกด้วย มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากเจ้าผู้ครองนครน่านจะประกอบพิธีบวงสรวงพระธาตุที่วัดแห่งนี้ เมื่อเกิดความไม่สงบหรือภัยพิบัติต่างๆ และยังเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีถทิน้ำพิพัฒน์สัตยาในพระวิหาร ต่อหน้าพระพุทธปฏิมากรปางประทับยืนสูง 4 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2340 สมัยเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน ซึ่งเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่มาจนถึงปัจจุบัน
จากนั้น  เดินทางสู่ อ.เมือง จ.น่าน เพื่อ รับประทานอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร เมนูข้าวซอยรสเลิศ
*บริเวณใกล้เคียงจะมีขายผ้านุ่งท้องถิ่นหากท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อได้*
พาท่านเดินชมความงามของเมืองน่าน เมืองที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายของล้านนาเดิม ด้วยลักษณะเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก แต่ทุกตารางนิ้วของเมืองเต็มไปด้วย ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และความน่ารักที่รอให้ท่านสัมผัส ทำให้เป็นเมืองที่เที่ยวสนุก เที่ยวสบาย แต่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้น พาท่านสักการะ เสาพระหลักเมืองน่านวัดมิ่งเมือง ซึ่งได้รับการสถาปนาวัดใหม่ จากเดิมที่เป็นวัดร้าง โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าครองนครในตอนนั้น สำหรับตัวอุโบสถนั้นพระครูสิริธรรมภาณี ได้บูรณะใหม่ในปี พ.ศ. 2527 เนื่องจากทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยตัวอาคารเป็นฝีมือของช่างพื้นบ้านของเมืองน่าน และงานลวดลายปูนปั้นจากช่างเชียงแสน ภาพในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองน่านตั้งแต่สมัยพญาภูคาเจ้าเมืองน่านองค์ปฐม ซึ่งเดิมศูนย์กลางอยู่ที่อ.ปัว ในปัจจุบัน
สำหรับเสาหลักเมืองนั้น สมัยโบราณจะเรียกว่า เสามิ่งเมือง หรือ เสามิ่ง โดยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถะวรปัญโญ เป็นผู้โปรดให้ฝังเสาพระหลักเมืองน่านลง เมื่อปีพ.ศ. 2331
จากนั้น  พาท่านชม หนึ่งในสถานที่ที่โด่งดังที่สุดของจังหวัดน่าน กับภาพเสียงกระซิบรรลือโลก ณ วัดภูมินทร์แต่เดิมนั้นมีชื่อว่าวัดพรหมมินทร์ เอกลักษณ์  ที่แตกต่างจากวัดล้านนาทั่วไปคือ โบสถ์และพระวิหารสร้างชอาคารจัตุรมุขหลังเดียวกัน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ซึ่งสันนิฐานกันว่าเป็นโบสถ์แบบจัตุรมุขหลังแรกของไทย พาท่านชม “ฮูบแต้ม” หรือภาพจิตรกรรมภายในวิหาร ซึ่งภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองในสมัยนั้น
พาท่านเข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านดัดแปลงจากที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน มีพื้นที่รวม 14 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา โดยเคยเป็นศาลากลางจังหวัดน่าน ก่อนเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2517 ไฮไลท์สำคัญคือ งามช้างดำ ซึ่งเป็นของคู่บ้านคู่เมือง จนอยู่ในคำขวัญว่า“แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง”
ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านยังมี ซุ้มลีลาวดีเรียงกันเป็นแนวยาวให้ท่านได้บันทึกรูปกันอย่างตามอัธยาศัย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องไม่พลาด
จากนั้น  พาท่านเข้าสักการะอีก 1 ปูชนียสถานที่สำคัญใรตัวเมืองน่าน ณ ที่มีจุดเด่นที่องค์เจดีย์ช้างค้ำ ที่เป็นศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย สังเกตได้จากลักษณะเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ และยังมีประติมากรรมก่ออิฐถือปูนเป็นรูปช้างล้อมองค์เจดีย์ไว้ นอกจากนั้นยังมีพระประธานปูนปั้นขนาดใหญ่ ศิลปะเชียงแสน ฝีมือสกุลช่างน่าน ซึ่งนับว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองน่าน
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารในตัวเมืองน่าน
จากนั้น  รถตู้มารับและเดินทางไปยัง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะอีกด้วย สันนิษฐานว่า พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย ถือเป็นแบบอย่างสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของช่างสกุลน่าน นอกจากนั้นยังมีสิ่งคู่ควรแก่การสักการะอีกมากมาย อาทิ วิหารพระเจ้าทันใจ วิหารพุทธไสยาศน์ เป็นต้น
จากนั้น  พาท่านเข้าชม วัดพระธาตุเขาน้อยเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาโดยเป็นที่ประดิษฐานพระเกษาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้านบนยังประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ตรงจุดนี้ท่านยังสามารถชมวิวเมืองน่านได้อย่างสุดลูกหูลูกตา
เดินทางกลับสู่ตัวเมือง เพื่อพาเดิน กาดข่วงเมืองน่านหรือถนนคนเดินเมืองน่านที่จัดเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ของที่ระลึก อาหาร ที่เป็นสินค้าของชาวเมืองน่าน ให้ท่านได้เลือกรับประทานอาหารได้อย่างอิสระ โดยหากท่านสนใจลองทานขันโตกเมืองน่านก็สามารถลองทานได้ที่กาดข่วงแห่งนี้
***อิสระเลือกรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย***
ที่พัก โรงแรมน่านนครา / โรงแรมน่านบ้านคุณ / โรงแรมบ้านน่าน หรือเทียบเท่า

วันที่สาม  บ่อเกลือ • ถนนลอยฟ้า 1081 • บ่อเกลือสินเธาว์ • หมู่บ้านสะปัน • ชมวิวจุดชมวิวดอยภูคา 1715 ถนนลอยฟ้า • อำเภอปัว • ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ •วัดภูเก็ต • วัดศรีมงคล • ถนนคนเดินปัว (อาหาร : เช้า/กลางวัน/อิสระ)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
นำท่าน  เดินทางสู่อ.บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร
**ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงมีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือน เกลือสินเธาว์เพื่อ บริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง อำเภอบ่อเกลือ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม โอบล้อมด้วย ขุนเขาเขียวขจี บ่อเกลือจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดน่านที่รอคอยนักเดินทางเข้ามาสัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาตและตำนานการทำเกลือบนที่สูง
จากนั้น  ให้ทุกท่านแวะถ่ายรูปที่ถนน 1081โดย ถนนสาย สันติสุข - บ่อเกลือ ถนนหมายเลข 1081 ยังมีความสวยงามและได้รับฉายาว่า ถนนลอยฟ้าของจังหวัดน่าน ซึ่งถนนสายดังกล่าว ได้ถูกตัดผ่านสันเขา เป็นระยะทางหลาย 10 กิโลเมตร ทำให้เมื่อขับรถไปนั้น จะเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งตลอด 2 ฝั่งทาง จะเป็นไหล่เขาลงไป และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศธรรมชาติได้ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ ยังมีทะเลหมอกให้มองเห็นเป็นบางช่วงในระหว่างเส้นทาง นับได้ว่าเป็นอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดน่านที่ทุกคนห้ามพลาด
จากนั้น พาทุกท่านชม บ่อเกลือสินเธาว์บนภูเขาแห่งเดียวของโลกตรงนี้สำรวจแล้วว่าไม่มีที่ไหนอีก บ่อเกลือเดินทางมาค่อนข้างยาก แต่สวยงามมาก หากพูดในด้านการท่องเที่ยว มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวในเรื่องของธรรมชาติสูงปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม จะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพักการทำเกลือของ ชาวบ้านบ่อเกลือ นำน้ำเกลือที่ตักจากบ่อมาต้มในกระทะประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงให้น้ำเกลือระเหยแห้งจากนั้นก็จะนำไม้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือกระทะเพื่อให้น้ำเกลือไหลลงมาในกระทะทำอย่างนี้ไปเรื่อยจนน้ำในกระทะแห้ง หมดแล้วจึงตักน้ำเกลือจากบ่อมาใส่ลงไปใหม่ หลังจากนั้นใส่ถุงวางขายกันหน้าบ้าน
จากนั้นมุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านสะปันจังหวัดน่าน เริ่มกลายเป็นจุดมุ่งหมายยอดฮิตของคนไทยที่ต้องการความเงียบสงบและมาพักผ่อน เพราะธรรมชาติของหมู่บ้านสะปันถือว่าดีและครบเครื่องมาก ไม่ว่าจะเป็นทุ่งนาเขียวๆ โอบล้อมด้วยภูเขาเกือบทุกด้าน ตอนเช้ามีหมอกสวยๆ แถมยังมีน้ำตกให้เที่ยวเล่นอีก โดยรวมถือเป็นอีกที่หนึ่งที่โคตรดีของจังหวัดน่าน
พาทุกท่าน แวะถ่ายรูปกับ จุดชมวิว 1715เป็นจุดแวะพักชมวิวที่สวยงาม เป็นจุดชมวิวที่สูงห่างจากระดับน้ำทะเล 1715 เมตร มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อน มีลานกางเต้นสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนระหว่างทาง มีห้องน้ำสะอาดให้บริการ อยู่ถนนเส้นทางระหว่างปัว-บ่อเกลือ
มุ่งหน้าสู่ อำเภอปัว จังหวัดน่านเมืองเล็กๆ แสนโรแมนติก เหมาะกับการใช้ชีวิตเรียบง่าย และเงียบสงบ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นทุ่งนา ถ้าเรามาช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม แม้ต้นข้าวจะยังไม่โตเต็มที่ เพราะชาวบ้านเพิ่งเริ่มดำนากัน แต่เราจะได้ภาพผืนนาสีน้ำตาลกว้างไกลตัดกับต้นกล้าสีเขียว สวยงามมาก สะกดทุกสายตาของผู้มาเยือนแน่นอน นอกจากธรรมชาติแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณี ก็ยังน่าหลงใหล 
พาท่านสโลวไลฟ์พร้อมดื่มเครื่องดื่มเติมความสดชื่นที่ ร้านกาแฟไทลื้อร้านกาแฟที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาและขุนเขา ตัวร้านเป็นลักษณะบ้านแบบไทลื้อ และยังมีมุมจิบเครื่องดื่มหลายๆ จุด ซึ่งเก๋ไก๋ไม่ธรรมดา นอกจากนั้นท่านยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหลลายโบราณซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีของเมืองปัวได้ ที่ ร้านลำดวนผ้าทอ
มุ่งหน้าสู่ วัดภูเก็ตโดยชื่อของวัดนั้นมาจากชื่อหมู่บ้านที่ชื่อว่าเก็ต และตั้งอยู่บริเวณเนินเขา มีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ ประดิษฐานหลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา ที่ศักดิ์สิทธิ์ หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ภายใตวัดยังมีเทมเพิล สเตย์ ซึ่งเป็นที่พำนักของผู้ที่มาปฏิบัตรธรรมที่วัดแห่งนี้ และยังมีพระพุทธธรรมจักรองค์ที่ 36 พระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้น มุ่งหน้าสู่ วัดศรีมงคลอีกวัดที่ได้รับการตกแต่งแบบไทยล้านนา ซึ่งพระครูมงคลรังสี หรือหลวงปู่ครูบาก๋ง ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้าน เคยได้รับนิมนต์มาอยู่ที่วัดแห่งนี้จนมรณภาพ โดยรอบวัดตกแต่งด้วยโคมไฟกระดาษสา ร่มกระดาษสา ตุง ซึ่งล้วนเป็นข้าวของเครื่องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านทั้งสิ้น พาท่านสักการะพระประธานในวิหารหลวง และชมจิตรกรรมฝาผนังซึ่งส่วนหนึ่งเป็นรูปมหาอุทกภัยที่เมืองยม พ.ศ. 2424 อีกหนึ่งสิ่งที่โด่ดเด่นคือทัศนียภาพหน้าวัดซึ่งเป็นทุ่งนาอันกว้างขวางมีพื้นหลังเป็นดอยภูคา ให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศกันอย่างอัธยาศัย
นำทุกท่าน ช้อปปิ้งที่ ถนนคนเดินปัวโดยจะเปิดทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ถนนคนเดินปัวเป็นถนนคนเดินขนาดเล็ก แยกออกเป็นสามทาง ความยาวประมาณ 100 เมตร มีลานขันโตกสำหรับไว้รับประทานอาหาร ที่เป็นเอกลักษณ์ของถนนคนเดินปัว พร้อมมีโชว์จากชาวบ้านที่สลับหมุนเวียนตลอดทั้งคืน ส่วนสิงที่มาถนนคนเดินนี้ ที่ต้องห้ามพลาด คือ ซุ้มรำวงย้อนยุค ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ถนนคนเดินแห่งนี้ให้คึกครื้นและประทับใจ
*** อิสระอาหารเย็น ณ ถนนคนเดินปัว***
ที่พัก ปัว พาโนราม่า / โรงแรมปัวเดอวิว บูติค รีสอร์ท / โรงแรมชมพูภูคารีสอร์ท หรือเทียบเท่า

วันที่สี่  แพร่ • วัดพระธาตุช่อแฮ • วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร • สักการะพระพุทธชินราช กรุงเทพฯ    (อาหาร : เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น พาท่านออกเดินทางสู่เมืองแพร่ เพื่อสักการะพระธาตุประจำคู่บ้านคู่เมืองแพร่ ที่ พระธาตุช่อแฮพระธาตุประจำปีเกิด ปีขาล องค์เจดีย์เป็นศิลปะเชียงแสน แบบแปดเหลี่ยมย่อมุมไม่สิบสองบุด้วยทองจังโก สูง 33 เมตร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายและพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นยังมีหลวงพ่อช่อแฮประดิษฐานในพระอุโบสถอายุหลายร้อยปี พระพุทธฌลกนารถบพิตร กรุอัฐิครูบาศรีวิชัย และอีกมากมาย นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาที่สุดของจังหวัดแพร่
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร จ.แพร่
นำท่าน  มุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก สู่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหารซึ่งประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในสมัยพญาลิไท ถือเป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะที่สวยงามมากที่สุดองค์หนึ่งที่สร้างในยุคนั้น งามจนพระบาทสมเด็จพระจุมจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้นำมาประดิษฐานที่วัดในพระนคร แต่ชาวเมืองได้ขอให้ไม่ให้นำไปเนื่องจากเป็นดั่งศูนย์รวมใจของเมือง พระองค์จึงได้โปรดให้หล่อองค์จำลองและประดิษฐานไว้ ณพระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร
เดินทางสู่ จ.นครสวรรค์ แวะรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ ณ ปั๊มน้ำมัน ปตท.ดินแดง-วิภาวดี
22.00 น.  เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

#Chic Journey…Northern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

Visitors: 234,110