วันหยุดเที่ยวไทย ปิล็อกอิต่อง สังขละบุรี กาญจนบุรี 3วัน 2คืน 4-6 ก.ย.63 ทัวร์กาญจนบุรี เที่ยวหอมคะน้าคาเฟ่ สะพานมอญ ช่องเขาขาด ล่องเรือชม Unseen Thailand เมืองบาดาล

รหัสสินค้า : CHIC-EZDCC149-KANCHANABURI3D2N

ราคา

6,900.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 6,900.00 บาท

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : ปิล็อกอิต่อง สังขละบุรี กาญจนบุรี 3 วัน 2คืน

เดินทางโดย : รถตู้ปรับอากาศ

เดินทาง : 4 - 6 กันยายน 2563

รายละเอียด : หอมคะน้า คาเฟ่ (HOM KHA NA CAFE) คาเฟ่น้องใหม่ ท่ามกลางธรรมชาติสุดชิลล์ เอาใจคนชอบเที่ยวแบบสโลไลฟ์ ทองผาภูมิ ปิล็อก บนเส้นทางสายนี้วิวสวยสุดๆ แวะ "จุดชมวิว กม. 12" "น้ำตกจ๊อกกระดิ่น" น้ำตกที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่ง หนึ่งของอุทยานแห่งชาติ ทองผาภูมิ...ช่องเขาขาด" หรือ "จุดเฝ้าตรวจช่องทางมิตรภาพ"...หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก เขตทำเหมืองเก่า วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ทั้งสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี...เลือกซื้อของที่ระลึก ขนมพื้นเมือง ณ "ถนนคนเดินบ้านอีต่อง"...ชมทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น "ที่เนินช้างศึก"...ด่านเจดีย์ 3 องค์ ถือเป็นด่านสิ้นสุดชายแดนไทยฝั่งตะวันตก...ไหว้หลวงพ่ออุตตมะเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่ง "วัดวังก์วิเวการาม"…ทำบุญ "ตักบาตรยามเช้า"...สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือที่ เรียกกันว่า"สะพานมอญ”...ล่องเรือชม Unseen Thailand "เมืองบาดาล" ซึ่งเดิมคือวัดวังก์วิเวการาม

ราคา 6,900 บาท

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

             
                 

เที่ยวเมืองไทย: #ปิล็อกอิต่อง สังขละบุรี กาญจนบุรี 3วัน 2คืน
โดยรถตู้ปรับอากาศ วันที่ 4 - 6 ก.ย. 2563

วันแรกของการเดินทาง   กรุงเทพฯ – หอมคะน้า – ปิล็อก – อิต่อง

06.30 น.  คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย  โดยมีทีมงานคอยอำนวยความสะดวกในด้านสัมภาระ(ผ่านมาตรฐาน SHA)
07.00 น.  ออกเดินทาง ด้วยรถตู้ปรับอากาศ  มุ่งหน้าสู่ จ.กาญจนบุรี พร้อมบริการอาหารว่าง(1)บนรถตู้
09.30 น.  แวะชมวิว ชิม ช็อป แชะ ณ หอมคะน้า คาเฟ่ (HOM KHA NA CAFE) คาเฟ่น้องใหม่ใน ตำบลหนองสามพราน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ท่ามกลางธรรมชาติสุดชิลล์ มองเห็นไร่คะน้าและวิวภูเขาสูงใหญ่ เอาใจคนชอบเที่ยวแบบสโลไลฟ์
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน(2)  ณ ร้านอาหาร
บ่าย  มุ่งหน้าตามเส้นทางทองผาภูมิ ปิล็อก บนเส้นทางสายนี้วิวสวยสุดๆ แวะ จุดชมวิว กม. 12  จุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบเขื่อนเขาแหลม รวมถึงยอดเขาช้างเผือก ป่าดงดิบ เขาหินปูน ตามป้ายที่ตั้งอยู่ด้านหน้า อาทิ บ้านท่าแพ เทือกเขาท่าขนุน เจดีย์วัดเขาน้อย เป็นต้น
จากนั้นนำท่านชม น้ำตกจ๊อกกระดิ่น คือน้ำตกที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่ง หนึ่งของอุทยานแห่งชาติ ทองผาภูมิ อยู่ห่างจากอุทยานฯประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปีมี ชั้นเดียว แต่มีความสวยงามมาก เพราะว่าสายน้ำ ของน้ำตกที่ไหลผ่านหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร ลงสู่พื้นล่างแล้ว แตกกระจายออกมากลายเป็นกลุ่มไอน้ำลอยตัวขึ้น มาจากพื้นล่าง ซึ่งมีความสวยงามมาก  ความพิเศษของน้ำตก คือตรงที่มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นสีครามปนเขียว
จากนั้นนำท่านชม ช่องเขาขาด หรือ จุดเฝ้าตรวจช่องทางมิตรภาพ มีลักษณะเป็นช่องเขาที่มีถนนตัดผ่าน เชื่อมระหว่างฝั่งไทยกับฝั่งพม่า ซึ่งในส่วนของฝั่งพม่า สามารถมองเห็นสถานีส่งก๊าซได้อย่างชัดเจน จากนั้นชม จุดชมวิวเนินเสาธง ที่มีเสาธงของสองประเทศยืนเด่นเป็นสง่าอยู่คู่กัน แสดงถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
จากนั้นออกเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก เขตทำเหมืองเก่า เดินทางถึง "บ้านอีต่อง" ในอดีตเคยเป็นแหล่งทำเหมืองแร่ หรือที่รู้จักกันในนาม "เหมืองปิล็อก" แม้ในปัจจุบันเหมืองแห่งนี้ปิดตัวแล้ว แต่ บ้านปิล็อก ที่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แต่ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์น่าค้นหา มีเอกลักษณ์ ตรงที่ความเงียบสงบ วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ทั้งสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ความงามของสภาพภูมิประเทศ จึงเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางแวะเวียนมาเยือน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ที่  ปิล็อกการ์เด้นฮิว หรือเทียบเท่า
17.00 น.  นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เจริญที่สุดสมัยที่กิจการเหมืองรุ่งเรือง เที่ยวชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านอีต่อง เลือกซื้อของที่ระลึก ขนมพื้นเมือง ณถนนคนเดินบ้านอีต่อง
19.00 น.  บริการอาหารค่ำ(3)   ณ ร้านอาหาร

วันที่สองของการเดินทาง  เนินช้างศึก – ด่านเจดีย์ 3 องค์ – วัดวังก์วิเวการาม – สังขละบุรี

06.00 น.  ท่านเดินทางด้วยรถ 4X4 เที่ยว ชมทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่เนินช้างศึก  ฐานปฏิบัติการช้างศึก ตำรวจตระเวนชายแดน ที่135 หากเรามองจากจุดนี้จะเห็นบรรยกาศโดยรอบหมู่บ้านอีต่อง รวมไปถึงที่พักต่างๆ ของบ้านอีต่องด้วย
07.00 น.  บริการอาหารเช้า(4)ณ  ห้องอาหารภายในที่พัก
09.30 น.  เดินทางสู่ สังขละบุรี อำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ที่ใครต่างเข้ามาก็เป็นอันต้องหลงรัก ด้วยวิถีชีวิตชาวมอญแบบเรียบง่าย ผู้คนเป็นมิตร อากาศดี ใกล้ชิดธรรมชาติ และ วัฒนธรรมของ 3 เชื้อชาติ ทั้งไทย มอญ และกะเหรี่ยง
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน(5)ณ ร้านอาหาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ด่านเจดีย์ 3องค์ ถือเป็นด่านสิ้นสุดชายแดนไทยฝั่งตะวันตกสมัยก่อนที่แห่งนี้เคยเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญ ในการทำสงคราม ไทย-พม่าเดิมเรียกกันว่า “หินสามกอง” เนื่องจากชาวบ้านผ่านมาบริเวณนี้ ก็จะนำหินมากองไว้ เพื่อเป็นโชคดีและสิริมงคลในการเดินทาง  นานวันหินก็ได้มีขนาดใหญ่ขึ้น  และต่อมาในปี พ.ศ.2472 พระศรีสุวรรณคีรี  เจ้าเมืองสังขละบุรีก็ได้นำชาวบ้านมาก่อสร้างเจดีย์จากหินกองใหญ่ ซึ่งเป็นเจดีย์สามองค์ในปัจจุบัน
นำท่านไหว้หลวงพ่ออุตตมะเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งวัดวังก์วิเวการาม เป็นพระภิกษุที่ได้ความเคารพเลื่อมใสในหมู่คนไทยเชื้อสายมอญและชาวพุทธทั่วไป ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสังขละบุรี  ภายในงดงามไปด้วยพุทธศิลปแบบมอญอันวิจิตรตระการตา และรูปหุ่นขึ้ผึ้งขนาดเท่าคนจริงของหลวงพ่ออุตตมะ นั่งอยู่บนบังลังก์หน้าประสาทหลังใหญ่ 9 ยอดที่ใช้เก็บสังขารของท่าน จากนั้นไหว้เจดีย์พุทธคยา เจดีย์ที่มีความสวยสดงดงามส่องแสงทองเด่นอร่ามทั่วทุกสารทิศ ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งหลวงพ่ออุตตมะได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา
17.00 น.  นำท่านเข้าที่พัก โรงแรม สวนแมกไม้ รีสอร์ท - สังขละบุรี (กาญจนบุรี)พักผ่อนตามอัธยาศัย
18.00 น.  บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร(6)

วันที่สามของการเดินทาง    สะพานมอญ – ล่องเรือ เมืองบาดาล – กรุงเทพฯ

06.00 น.  นำท่านสมาชิกเดินข้ามสะพาญมอญ เพื่อทำบุญ ตักบาตรยามเช้า (ตามอัธยาศัย)
หลังตักบาตร ถ่ายภาพเดินชม "สะพานไม้อุตตมานุสรณ์" หรือที่ เรียกกันว่า"สะพานมอญเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ ประมาณ ๑ กม. หลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยงและมอญได้ สัญจร ไปมาหาสู่กันได้ เป็นการสร้าง ความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่ม กลายเป็นสัญลักษณ์ของสังขละบุรีไปแล้ว นักท่องเที่ยวจะนิยมเดิน ชมสะพานเพื่อชมแสงสีทองของ พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า รวมถึง ชมวิถีชีวิตของชาวไทย และมอญที่เดินข้ามไปมาหากันบนสะพาน แห่งนี้ซึ่งค่อน ข้างจะคึกคักมากในช่วงเช้า ช้อปปิ้งของที่ระลึก ผ้านุ่ง โสร่งแบบมอญ แป้งทนาคา ตามอัธยาศัย
07.30 น.  บริการอาหารเช้า(7)ณห้องอาหารของรีสอร์ท
09.30 น.  เก็บสัมภาระ อำลาที่พัก นำท่านลงเรือล่องชม เมืองบาดาล ซึ่งเดิมคือวัดวังก์วิเวการาม ที่หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยง และมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อ ปี พ.ศ. 2496 ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำ รันตี ไหลมาบรรจบกัน ต่อมาในปี 2527 มีการก่อสร้าง เขื่อนเขาแหลมทำให้น้ำท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่า รวมทั้งวัดนี้ด้วย หลวงพ่อจึงได้ย้ายมาสร้างวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานาน นับสิบปี ช่วงฤดูแล้งราวเดือนมีนาคม-เมษายน น้ำจะลดจนตัวโบสถ์โผล่พ้นน้ำทั้งหมด สามารถนั่งเรือ และขึ้นไปเดินเที่ยวชมโบสถ์ได้ สองริมฝั่งแม่น้ำ ท่านจะะพบวิถีการดำเนินชีวิตของ ชาวมอญ ถือเป็นสถานที่ ที่น่าสนใจ มีเสน่ห์จนกลายเป็นแหล่ง ท่องเที่ยว Unseen Thailand ในชื่อ เมืองบาดาล
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน(8)ณ ร้านอาหาร
บ่าย  จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกของเมืองกาญจน์  ซึ่งมีของฝากมากมายเพื่อฝากคนทางบ้าน อาทิเช่น ทองม้วนสดสูตรต้นตำรับ, ทองม้วนกรอบ, ซาหริ่มใบเตย หรือจะเลือกเป็นลูกชิ้นหมู, ลูกชิ้นปลา รวมทั้งของฝากอีกมากมายให้ท่านได้เลือกสรร 
18.00 น.  เดินทางถึง กรุงเทพฯ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

Chic Journey # Kanchanaburi Tour
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการ

ราคา (บาท)

ผู้ใหญ่พักห้องละ 2-3 ท่าน ราคาท่านละ

6,900 บาท

เด็กอายุ 3 - 10 ปี (ไม่มีเตียงเสริม)

6,000 บาท

พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ

1,500 บาท

Visitors: 234,110