เที่ยวไทย ทัวร์เชียงใหม่ ชมทุ่งดอกบัวตองแม่ฮ่องสอน 26-29 พ.ย.63 บิน WEเที่ยวเชียงใหม่ ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน ป่าบงเปียง แม่แจ่ม ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ สักการะ พระธาตุสี่จอม สวนสนบ่อแก้ว ผาช่อ

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวไทย อิงแอบแนบชิดธรรมชาติ ทุ่งดอกบัวตอง อลังการ บานทั้งดอย
#ทัวร์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ชมทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ 4วัน 3คืน
เดินทาง 26 – 29 พฤศจิกายน 2563 : ราคา 12,500.-บาท
โดยสายการบิน Thai Smile ( WE )

วันแรก  สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินเชียงใหม่ – ดอยอินทนนท์ – น้ำตกวชิรธาน – กิ่วแม่ปาน - น้ำตกห้วยทรายเหลือง – ป่าบงเปียง – แม่แจ่ม

05.00 น.  คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทยสมาย (WE) ทีมงานคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ (ผ่านมาตรฐาน SHA)
07.00 น.  ออกเดินทางสู่ เชียงใหม่ โดยสายการบินไทยสมาย เที่ยวบิน WE 168  (กรุณานำบัตรประชาชนไปแสดงด้วย)
08.15 น.  ถึง สนามบินเชียงใหม่เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้ปรับอากาศ
09.00 น.  ออกเดินทางสู่ อ.จอมทอง เพื่อขึ้นสู่ ยอดดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดในสยาม นำชม น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ และมีน้ำไหลตกลงมาในปริมาณที่มาก เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย น้ำตกวชิรธารอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจากลำห้วยแม่กลาง ที่มีต้นกำเนิดอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ น้ำตกวชิรธารเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมีหน้าผาสูง ตัวน้ำตกมี 1 ชั้น น้ำเบื้องบนไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ด้วยความสูงของน้ำตกถึง 70 เมตร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กิ่วแม่ปาน
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน (1) ณ ร้านอาหารพื้นบ้านเมืองเหนือ กิ่วแม่ปาน
บ่าย  เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานจัดเป็นเส้นทางเดินที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ ได้ชมพันธุ์ไม้หายาก เช่น กุหลาบพันปี บีโกเนียป่า ฯลฯ และสัตว์สงวนกวางผา นอกจากนี้กิ่วแม่ปานยังเป็นจุดชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ด้านหลังของ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
จากนั้นนำท่านชม น้ำตกห้วยทรายเหลืองคืออีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ที่พักแรมมากที่สุด โดยน้ำตกนั้นมี ขนาดกลาง ไม่ใหญ่มาก แต่มีน้ำไหลแรงตลอดปี น้ำตกไหลจากหน้าผาลงมาเป็นชั้นๆ
นำท่านออกเดินทางสู่ บ้านป่าบงเปียงเป็นหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยนาขั้นบันได ต้นข้าวโพด และมีวิถีชีวิตที่ งดงามของชาวเขาปกากะญอ เป็นสถานที่เที่ยว ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและบรรดาช่างภาพที่ชอบเก็บภาพความ อุดมสมบูรณ์ของภูเขาและป่าไม้  
**(ต้องเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถ 4WD ระยะทาง 3 กม.)
จากนั้นเดินทางเข้าสู่ แม่แจ่ม
เย็น  บริการอาหารเย็น (2) ณ ร้านอาหาร 
จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก บ้านกับดอย หรือเทียบเท่า อ.แม่แจ่ม 

วันที่ 2 วัดยางหลวง–ศูนย์หัตถกรรมผ้าตีนจกแม่แจ่ม –ขุนยวม – ดอยแม่อูคอ ทุ่งดอกบัวตอง – แม่สะเรียง

เช้า  บริการอาหารเช้า (3) ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท จากนั้นอำลาที่พัก 
นำท่านเข้าชม วัดยางหลวง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 24 โดยชาวกะเหรี่ยง หรือ “ยาง” เป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้น สิ่งที่สะดุดตาผู้มาเยือนเป็นสิ่งแรก คือ ผนังด้านหลังของวิหาร ซึ่งมีภาพที่งดงามของพระ 3 องค์ ที่มีลักษณะของศิลปะของภาคเหนืออย่างเด่นชัด คิดว่าเป็นภาพพระพุทธองค์ และพุทธสาวก และยังมี กู่ปราสาท หรือ กิจกูฏ ตั้งอยู่หลังพระประธานในวิหารของวัด ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าเป็นประตูไปสู่สวรรค์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของกิจกูฏเป็นแบบพุกามจากพม่า ผสมกับล้านนาสกุลช่างเชียงแสน ซึ่งวัดแห่งนี้นับเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับอำเภอแม่แจ่มมาอย่างยาวนาน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่อีกด้วย
จากนั้นนำท่านชม ศูนย์หัตถกรรมผ้าตีนจกแม่แจ่มอำเภอแม่แจ่มถือได้ว่าเป็นชุมชนหนึ่งที่มีการทอผ้าซิ่นตีนจกกันมากที่สุด ด้วยลายที่มีเอกลักษณ์ในการท่อหรือจกในลักษณะการคว่ำลาย ทำให้ลวดลายที่ได้นั้นสวยงาม ปราณีตเฉพาะแบบไม่เหมือนใคร เราจะพบเห็นการทอผ้าตีนจกมากมายในหลายหมู่บ้าน ผ้าตีนจกโบราณที่ในอำเภอแม่แจ่มบางผืนมีอายุมากกว่า 100 ปีซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมทอด้วยไหม ปัจจุบันยังมีเหลือให้ชมและศึกษาอยู่ในเขตตำบลท่าผา, ตำบลช่างเคิ่ง 
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน (4) ณ อำเภอแม่แจ่ม
บ่าย   จากนั้นเดินทางเข้าสู่ ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ เมื่อเข้าสู่ เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ก็ได้เวลาที่ดอยแม่อูคอ จะถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีเหลืองทอง บานสะพรั่งทั่วทั้งหุบเขา ที่นี่คือ ทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ บนความสูงประมาณ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีก แห่งหนึ่งของ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองจะบานเต็มที่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน มีระยะเวลาบานสวยเต็มที่ ราวๆ 2 อาทิตย์เท่านั้น บนดอยแม่อูคอ มีจุดชมวิวและศาลาชมวิวที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทุ่งดอกบัวตองได้รอบ 360 องศา ด้านบนยังตกแต่งด้วยทุ่งกังหันลม ให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปกันอีกด้วย
เย็น  บริการอาหารเย็น (5) ณ ร้านอาหารอินธิรา
พัก  Above The Sea Boutique Hotel Guesthouse หรือเทียบเท่า

วันที่ 3 พระธาตุ 4 จอม – สวนสนบ่อแก้ว – เก๊ามะขาม คอฟฟี่ – โครงการหลวงขุนแปะ – พระธาตุศรีจอมทอง

เช้า  บริการอาหารเช้า (6) ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท อำลาที่พัก
08.00 น.  นำทุกท่านเช้าสักการะ พระธาตุสี่จอมอันได้แก่ วัดพระธาตุจองแจ้ง / วัดพระธาตุจอมทอง / วัดพระธาตุจอมกิตติ / วัดพระธาตุจอมมอญ เป็นฉายาสะท้อน ความศักดิ์สิทธิ์ของอำเภอแม่สะเรียงว่า “ดินแดนพระธาตุสี่จอม”  โดยทั้ง 4 วัด ตั้งอยู่บนดอยหรือภูเขา ทั้ง 4 ทิศของเมืองแม่สะเรียงซึ่ง จะเรียกรวมกันว่า “พระธาตุสี่จอม” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง ที่สร้างขึ้นเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยดูแลปกปักรักษาเมืองแม่สะเรียงแห่งนี้ วัดและพระธาตุทั้งสี่จอม คือโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาวอำเภอแม่สะเรียง  ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเข้าไปนมัสการเพื่อเป็น สิริมงคลแก่ตนเอง ที่ว่ากันว่า ใครสักการะพระธาตุครบทั้งสี่จอม จะเป็นผู้ประเสริฐไปด้วยภูมิปัญญา
จากนั้นเดินทางสู่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป สวนสนบ่อแก้วหากผ่านไปยังถนนสายฮอด-แม่สะเรียง เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จัก  เป็นจุดแวะหลักที่ต้องก้าวจากรถเพื่อแวะพักจากอาการมึนโค้ง ผ่อนคลายถ่ายภาพตัวเองกับป่าสนที่เรียงราย เป็นทิวแถวทอดยาวสุดในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ มีสภาพอากาศชื้นและเย็นตลอดปี เมื่อเดินทางผ่านมายังเส้นทางนี้ จะสังเกตเห็นต้นสนเป็นจำนวนมากแต่ที่โดดเด่นและเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวก็คงจะเป็นแนวสนหน้าถนนทางเข้าฝั่งซ้ายมือ ที่มีการปลูกเรียงไว้เป็นแนว อย่างสวยงามทั้งสองข้างทาง มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะมาถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมากความสวยงามของที่นี่ ได้รับฉายาว่า เกาะนามิเมืองไทย ที่ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลีอีกด้วย
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน (7) ณ ร้านอาหาร อ.ฮอด
บ่าย  แวะผ่อนคลาย ณ ร้านกาแฟสุดชิค เก๊ามะขาม คอฟฟี่ อยู่ติดริมแม่น้ำปิง โดดเด่นด้วยต้นมะขามยักษ์ บวกกับไอเดียสุดเจ๋ง ที่เกิดอยากทำร้านกาแฟที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบตัว จึงออกมาร้านกาแฟบนต้นไม้อย่างที่เห็น ท่านสามารถนั่งริมระเบียงรอบต้นมะขามสัมผัสวิวสวยๆ อากาศดีๆ นับว่าเป็นทางเลือกดีๆ เหมาะกับการนั่งชิวๆ
จากนั้นนำทุกท่านเข้าชม วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารเดิมชื่อวัดพระธาตุเจ้าศรีจอมทองตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ฮอด หมู่ 2 ตำบลบ้านหลวงอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระธาตุประจำปีชวด สิ่งสำคัญภายในวัด คือ พระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทองอันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา ซึ่งมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่น คือเป็นพระบรมธาตุที่มิได้ฝังใต้ดินแต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภาย ในพระวิหารสามารถอันเชิญ มาสรงน้ำได้ 
เย็น  บริการอาหารเย็น (8) ณ ที่พัก
พัก บีเทล จอมทอง  หรือเทียบเท่า

วันที่ 4 ผาช่อ – วัดพระธาตุดอยคำ – กรุงเทพฯ

07.40 น.  บริการอาหารเช้า (9) ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท อำลาที่พัก
08.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ ผาช่อตั้งอยู่ใน อำเภอดอยหล่อ ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแม่วางด้วยลักษณะทางธรรมชาติที่แปลกตาคล้ายกับแกรนด์แคนยอน จึงทำให้ ผาช่อ ได้รับสมญานามว่า แกรนด์แคนยอนเมืองไทย และเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของ ลม ฝน จนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปี หรือพันปีก่อน ผ่านกาลเวลาและถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่าง แปลกตา และยังพบรังผึ้ง ขนาดใหญ่อยู่ตามหน้าผา จำนวนมากสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่เข้าไปเที่ยวชม
12.00 น.  บริการอาหารกลางวัน(10) ณ ร้านอาหารอิ่มปลาเผา
บ่าย  นำท่านเข้าชม วัดพระธาตุดอยคำ แต่เดิมชื่อ วัดสุวรรณบรรพต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านการขอพร บนบาน และเป็นวัดที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร บนวัดพระธาตุดอยคำ มีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ สนามบินเชียงใหม่ นอกจากนี้ยามค่ำคืนเมื่อมองขึ้นไปบนพระธาตุดอยคำจะเห็นองค์พระธาตุเหลืองอร่ามสว่างไสว ซึ่งมีความงดงาม
สมควรแก่เวลาเดินทางเข้าสู่ สนามบินเชียงใหม่ ช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
17.25 น.  เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยสมาย เที่ยวบินที่ WE 165
18.50 น.  ถึงท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพฯพร้อมความประทับใจ

#Chic Journey…Northern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ