ใต้สุดสยาม ขอพรวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ทัวร์เบตง นครศรีธรรมราช 4วัน3คืน ธ.ค.63-มี.ค.64 บิน FD วัดยางใหญ่ ไหว้ตาพรานบุญ วัดช้างให้ หลวงปู่ทวด จุดชมวิว Skywalkเบตง ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในโลก

รหัสสินค้า : CHIC-I002-THA804-NAKHON-BETONG4D3N-FD

ไม่พบสินค้า

ราคา

9,888.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวไทย ขอพรเมืองคอน ตลุยใต้สุดสยาม ทัวร์นครศรีธรรมราช เบตง 4วัน 3คืน

โดยสายการบิน : Air Asia ( FD ) - บินสุวรรณภูมิ

เดินทาง : ธันวาคม 2563 - มีนาคม 2564

รายละเอียด : นครศรีธรรมราช วัดยางใหญ่ (ไหว้ตาพรานบุญ) วัดเจดีย์ไอ้ไข่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ศาลหลักเมือง หาดใหญ่ จ.สงขลา ปัตตานี ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว วัดช้างให้ หลวงปู่ทวด จุดชมวิวสะพานเขื่อนบางลาง เบตง อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ จุดชมวิว Skywalk ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ถ่ายรูปสะพานแตปูซู น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 สวนหมื่นบุปผา อุโมงค์ปิยะมิตร บ่อน้ำร้อนเบตง สนามฟุตบอลเบตง สตรีทอาร์ท ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในโลก หอนาฬิกา ชมสนามบินเบตง - หาดใหญ่ ตลาดกิมหยง

**พักหาดใหญ่ 1คืน , เบตง 2 คืน 

ราคาเริ่มต้น 9,888 บาท

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง ,เที่ยวบินและเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

             
                 

ทัวร์ในประเทศ : เที่ยวในประเทศ เที่ยวไทย “ขอพรเมืองคอน ใต้สุดเบตง”
#ทัวร์เบตง เมืองคอน หาดใหญ่ 4วัน 3คืน
**พักหาดใหญ่ 1คืน , เบตง 2คืน**
เดินทางโดยสายการบิน AIR ASIA (FD) จากกรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
ราคาเริ่ม 9,888 บาท เดินทาง ธ.ค.63 - มี.ค.64
น้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง Carry on 7 KG (ไม่รวมน้ำหนักสัมภาระโหลดใต้เครื่อง)

วันแรก  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช - วัดยางใหญ่ (ไหว้ตาพรานบุญ) –วัดเจดีย์ไอ้ไข่ – วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร – ศาลหลักเมือง - หาดใหญ่ จ.สงขลา ( อาหาร : เที่ยง /เย็น )

04.00 น.  พร้อมกันที่จุดนัดหมาย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA ประตู 3-4 เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ
06.30.   ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โดยสายการบินAIR ASIA (FD) เที่ยวบินที่FD4320
07.50 .  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช รับสัมภาระเรียบร้อย
**ไกด์ถือป้ายต้อนรับรอทุกท่านบริเวณทางออกนำท่านขึ้นรถตู้ปรับอากาศ เดินทางสู่ วัดยางใหญ่ (ตาพรานบุญ) วัดสีชมพูแห่งเมืองนครเป็นวัดร้างเก่าแก่สมัยโบราณ แต่เดิมชื่อ “วัดคงคาล้อม” ในอดีตชาวบ้านทำไร่ยางขุดเจอชิ้นส่วนพระพุทธรูป คือ หลวงพ่อพระประธาน เลยบูรณะหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และด้วยความโด่งดังของพรานบุญก็ได้มีการบูรณะวัดอีกจนเป็นวัดที่สวยงามเหมือนในปัจจุบัน ไฮไลท์ของวัดนี้คือ “ตาพรานบุญ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวปักษ์ใต้นับถือ เชื่อกันว่าเป็นสุดยอดของพรานทั้งปวง บูชาแล้วมีโชคลาภเงินทอง ส่วนใหญ่คนนิยมขอ ความปลอดภัย โชคลาภ ให้มีกินมีใช้ หากใครสมหวัง วิธีแก้บนคือนำปัจจัยถวายไปช่วยสร้างวัดสร้างโบสถ์ (ความเชื่อส่วนบุคคล)
** TIP การบูชาตาพรานบุญ ไหว้บูชาด้วยพวงมาลัย ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม หมากพลูยาสูบ 1ชุด หากบนให้บนด้วย เหล้าขาว 1 ขวด ผ้าขาวม้า 1ผืน +++ คาถาบูชา กล่าว นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ ตามด้วย นะ ชา ลี ติ ออ อา ออ แอ รึก รือ ลึก ลือ ชัยยะ ชัยยะ สิริโภคานะมาสะโย
นำท่านเดินทางสู่ วัดเจดีย์ไอ้ไข่ (ตาไข่) จากเรื่องราวที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ ที่เมื่อขออะไรก็ได้สมหวังทุกอย่าง “ไอ้ไข่” รูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9-10 ขวบ ตั้งอยู่ในศาลาในวัดเจดีย์ สวมชุดลายพรางทหารสวมแว่นตาดำ ที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ ณ วัดแห่งนี้จากศรัทธาที่เชื่อกันว่า “ขอได้ ไหว้รับ”  โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย บนบานศาลกล่าว ขอให้มีโชคมีลาภในการเสี่ยงดวงเล่นพนัน หรือขอให้ช่วยเรียกคนมาซื้อของ หรือทำยอดขายให้  ได้ตามเป้า หรือของหายให้ช่วยหา หรือขอให้ช่วยปกป้องภัย ภายในวัดเจดีย์เต็มไปด้วยสิ่งของที่ผู้เลื่อมใสศรัทธานำมาแก้บน เช่น รูปไก่ชน ชุดทหาร หนังสติ๊ก ของเล่นต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนบริเวณที่ให้จุดประทัดก็มีเศษประทัดกองสูงเป็นเนินเขาย่อมๆ บ่งบอกถึงแรงศรัทธาที่มีต่อไอ้ไข่ และแสดงถึงผลสัมฤทธิ์จากผู้ที่มาขอแล้วได้รับจากไอ้ไข่ ทุกวันผู้คนต่างหลั่งไหลไปขอพรจากไอ้ไข่เป็นจำนวนมาก ให้ท่านกราบขอพร ขอโชคลาภ บนบานศาลกล่าว จากรูปไม้สลักไอ้ไข่ ตามอัธยาศัย ( ความเชื่อส่วนบุคคล ) 
**TIP  ไหว้ไอ้ไข่   การบูชา ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ : ธูป 3 ดอก บูชาบนได้ ไหว้รับ แต่เมื่อสำเร็จให้แก้บนด้วยของที่นำมาบนและจุดธูปเพียง 1 ดอกเท่านั้น   ของที่ชอบ : ขนมเปี๊ยะ, น้ำแดง, ชุดทหาร ตำรวจ, ไก่ปูนปั้น, หนังสติ๊ก, ประทัด
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 1)
นำท่านเดินทางสู่ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร  เดิมเรียกว่า วัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือของชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชแห่งนี้ที่รู้จักกันแพร่หลายคือ พระบรมธาตุเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า  เป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบล้านนา ทรงระฆังคว่ำ มีจุดเด่นที่ยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ ความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งขององค์พระบรมธาตุคือ องค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางใด ซึ่งยังไม่มีใครหาคำตอบได้ ความมหัศจรรย์นี้เอง จึงเป็น 1 ใน UNSEEN  THAILAND  ที่ห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร มีบุตรยาก ต้องมากราบไหว้เลยก็คือ  พระกัจจายนะ หรือ พระแอด ประดิษฐานอยู่ใน วิหารพระมหากัจจายนะ ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเรื่องสุขภาพและความเจ็บป่วย เชื่อกันว่าพระแอดจะช่วยดลบันดาลให้หายจากความเจ็บไข้ โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดหลัง และการขอบุตร เชื่อกันว่าท่านมีเมตตาบันดาลบุตรให้แก่ผู้ที่มีบุตรยาก (ความเชื่อส่วนบุคคล) จากนั้น เดินทางสู่ ศาลหลักเมืองนคร ที่มีชื่อเสียงและมีคนรู้จักมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องด้วยประวัติการสร้างนั้นเกี่ยวพันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เป็นสองรองใครในประเทศนี้คือ “จตุคามรามเทพ” ซึ่งการจัดสร้างหลักเมืองเต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ในทุกกระบวนการ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา(ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3ชั่วโมง)
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 2)
หลังทานอาหารสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม
ที่พัก: หาดใหญ่ ระดับ3ดาว
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สอง  หาดใหญ่ - ปัตตานี - ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว - วัดช้างให้ หลวงปู่ทวด – จุดชมวิวสะพานเขื่อนบางลาง - เบตง – อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ (อาหาร :เช้า-ติ่มซำ/ เที่ยง /เย็น -ไก่เบตง)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 3)เมนูติ่มซำ
นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดปัตตานี(ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เดินทางสู่ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวหรือ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองปัตตานีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวบ้านต่างให้ความเคารพนับถือ เดินทางมาสักการะบูชาเพื่อขอให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ หรือแม้แต่มีเรื่องเดือดร้อนก็ไปบนบานให้เจ้าแม่ช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้สมดังหวังกันไปหลายราย เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และศูนย์รวมศรัทธาเสมอมา เดินทางสู่ วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ เป็นวัดเก่าแก่ราว 300 ปี สร้างมาเมื่อใดและใครเป็นคนสร้างก็ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เดิมเป็นวัดร้างและถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลานาน ถือเป็นวัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัด ในส่วนของสถูปศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง มีผู้คนไปกราบไหว้บนบานอยู่เนืองนิจใครเจ็บไข้ได้ป่วยหรือวัตถุสิ่งของถูกขโมย หรือศูนย์หายก็พากันไปบนบาน ณ ที่สถูปแห่งนี้ ภายในวัดยังมีวิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด เป็นวิหารที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อทอง ซึ่งมีขนาดเท่องค์จริง รูปแบบการก่อสร้างเป็นแบบก่ออิฐถือปูนทรงไทยสวยงาม
จากนั้นเดินทางสู่  จังหวัดยะลา
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 4)
นำท่านสู่ จุดชมวิวสะพานเขื่อนบางลางเป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำปัตตานี อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ ตามแผนพัฒนาลุ่มน้ำปัตตานี โดยมีการสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2524 และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนยังอำนวยประโยชน์ในด้านการชลประทานสู่พื้นที่เพาะปลูกของจังหวัดยะลาและปัตตานีซึ่งน้ำที่ปล่อยออกมาก็นำมาผลิตไฟฟ้านำจ่ายให้ประชาชนในภาคใต้ได้ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญในภาคใต้อีกด้วย ให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นเดินทางสู่ เบตงอำเภอที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย เมืองใต้สุดปลายด้ามขวาน เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย นำท่านชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทยก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาในการขนส่งระหว่างชุมชนเมืองในปัจจุบันกับชุมชนเมืองใหม่
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 5) เมนูไก่เบตง
หลังทานอาหารสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม
ที่พัก: Modern Thai Hotel หรือระดับเทียบเท่ากัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สาม  จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - Skywalk(ไม่รวมค่าเข้า) - ถ่ายรูปสะพานแตปูซู –น้ำตกเฉลิมพระเกียรติร.9 - สวนหมื่นบุปผา - อุโมงค์ปิยะมิตร - บ่อน้ำร้อนเบตง –สนามฟุตบอลเบตง สตรีทอาร์ท - ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในโลก – หอนาฬิกา (อาหาร : เช้า/เที่ยง-ปลานิลน้ำไหล /เย็น)

04.00น.  นำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง (จุดเก่า) ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่32 มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต ให้ท่านเต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกแบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดได้อย่างสวยงาม (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ)
*มีบริการรถมอเตอร์ไซด์ขึ้นสู่จุดชมวิว เที่ยวละ 20 บาท* และบริเวณใกล้กันท่านสามารถอิสระชม Skywalk อัยเยอร์เวง(ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้า) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเบตงได้ บนระดับความสูง 2,038 จากระดับน้ำทะเล ใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 90 ล้านบาท มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ที่เป็นจุดไฮไลท์คือชั้น 3 ที่สร้างทางเดินด้วยกระจกใส มีความยาว 63 เมตร ให้ทุกท่านได้ตื่นตา ตื่นใจ พร้อมพบกับวิวสุดธรรมชาติสวยและ ความหวาดเสียวเวลาเดินเหยียบอยู่บนกระจก
รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 6)
นำท่านถ่ายรูปสวยๆกับ สะพานแตปูซูเป็นสะพานแขวนไม้เก่าแก่สร้างข้ามแม่น้ำปัตตานี มีนายมูเซ็ง แตปูซู เป็นผู้บุกเบิก ให้ท่านถ่ายรูป เดินทางสู่ น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9ชื่อเดิม “น้ำตกวังเวง” หรือ "อัยเยอร์เค็ม" เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 30 เมตร รอบบริเวณปกคลุมไปด้วยพรรณไม้เขียวขจีในปีมหามงคลครบรอบ 72 พรรษาในปี 2542 อบต.อัยเยอร์เวง จึงได้เข้ามาพัฒนาบุกเบิกเส้นทาง พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และได้เปลี่ยนชื่อเป็นน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นำท่านเดินทางสู่ สวนหมื่นบุปผา หรือเรียกว่า สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตงเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ระบบน้ำเพียงพอ จึงมีความเหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เป็นโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง คอยเชื้อเชิญผู้มาเยือน ได้แก่ แอสเตอร์ ไฮเดรนเยีย เบญจมาศ กุหลาบ พีค๊อก เยอบีร่า ลิลลี่ แกลดิโอลัส ตุ้มหูนางฟ้า และอีกหลายสายพันธุ์อันมีเสน่ห์ ให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 7) เมนูปลานิลน้ำไหล
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อุโมงค์ปิยะมิตรในอดีตเคยถูกใช้เป็นฐานในการหลบซ่อนตัว และเป็นแหล่งสะสมเสบียงในการต่อสู้ของกลุ่มผู้ขัดแย้งทางการเมืองในคาบสมุทรมาลายา ในเวลาต่อมากลุ่มผู้ที่เคยใช้อุโมงค์แห่งนี้ในการพักพิง ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว หากแต่ห้องหับและร่องรอยที่พวกเขาทิ้งไว้ยังคงถูกจารึกเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้ใช้ประโยชน์จากการรำลึกถึงอดีตแห่งการต่อสู้อันเจ็บปวด ภายในอุโมงค์สีเหลืองส้มนวลตาแต่ก็ชวนให้นึกถึงภาพอดีต อุโมงค์ถูกแบ่งออกเป็นห้องหรือช่องต่าง ๆ ตามการใช้งาน เช่น ห้องนอน ห้องเก็บเสบียง เป็นต้น อากาศภายในเย็นสบายไม่อึดอัดภายในอุโมงค์มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ระหว่างทางเดินไปสู่อุโมงค์ต้องเดินผ่านป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่บ่อน้ำร้อนเบตงเป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของน้ำนั้นอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส และบริเวณที่น้ำเดือดนี้สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 7 นาทีเท่านั้น มีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับกักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเล่น
จากนั้นเดินทางกลับสู่ เบตง นำท่านชม สนามฟุตบอลเบตงหรือ สนามกีฬากลางหุบเขาเป็นสนามที่มีลักษณะคล้ายสนามเมอร์ดิกาของกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีเนื้อที่ประมาณ 120 ไร่ ท่ามกลางหุบเขา ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ให้บรรยากาศร่มรื่นสดชื่นเป็นธรรมชาติสุด ๆ และเป็นสนามกีฬาที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีความพร้อมที่จะรองรับการแข่งขันกีฬาระดับประเทศได้อีก  เดินทางสู่ สตรีทอาร์ต Street Artแลนด์มาร์กเมืองเบตง เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของ ทีมนักศึกษาและอาจารย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วาดขึ้นมาในงานครบรอบ 111 ปี เมืองเบตง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเบตง เนรมิตงานศิลปะ บอกเล่าถึงเรื่องราววิถึชีวิต และสัญลักษณ์ของเมืองเบตง รอบเมืองเบตง 11 จุด ทั้งบนผนัง กำแพง ใต้สะพาน และตัวอาคารหลายจุดรอบเมืองเบตงสามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
นำท่านถ่ายรูปบริเวณ ตู้ไปรษณีย์แห่งอำเภอเบตงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในโลกโดยสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความยากลำบากในการติดต่อสื่อสารระหว่าง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้านบนของตู้ได้บรรจุลำโพงไว้ข้างในและเจาะรูกลมๆไว้รอบๆ เพื่อกระจายเสียงรายงานข่าวสารของทางราชการ มีอายุรวม 86 ปี ใกล้ๆกันมี หอนาฬิกา สัญลักษณ์ของเมืองเบตง ตั้งเป็นศูนย์กลางของสี่แยกวงเวียนกลางเมือง ใกล้ๆกันนั้นมี
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 8)
หลังทานอาหารสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม
ที่พัก: Modern Thai Hotel หรือระดับเทียบเท่ากัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สี่  ชมสนามบินเบตง - หาดใหญ่–ตลาดกิมหยง – ท่าอากาศยานหาดใหญ่ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ( อาหารเช้า/เที่ยง )

เช้า  รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 9)
นำท่านแวะชม สนามบินเบตงสนามบินแห่งแรกของ จ.ยะลา ตั้งอยู่กลางหุบเขา จุดประสงค์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ปัจจุบัน(พ.ย.63) ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย  ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 10)
เดินทางต่อสู่ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  นำท่านสู่ ตลาดกิมหยงเป็นตลาดขายของฝากและของที่ระลึกขนาดใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนอาคารสองชั้น ริมถนนละม้ายสงเคราะห์ ชั้นบนเป็นร้านขายสินค้า ชั้นล่างเป็นตลาดขายของแห้ง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อเดินทางกลับ
21.55น.  ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสายการบิน AIR ASIA (FD) เที่ยวบินที่ FD4303
23.30น.   เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

#Chic Journey Southern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการและวันเดินทาง

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

ราคาเด็ก 2-6 ปี
ไม่เสริมเตียง

พักเดี่ยว/เดินทางคนเดียว เพิ่ม

ที่นั่ง

หมายเหตุ

16-19 ธันวาคม 63

9,888

ไม่มีราคาเด็ก
(0-2 ปี 1,300 บาท)

 

2,000

15

 

27-30 ธันวาคม 63

10,888

2,000

15

 

13-16 มกราคม 64

9,888

2,000

15

 

27-30 มกราคม 64

9,888

2,000

15

 

10-13 กุมภาพันธ์ 64

9,888

2,000

15

 

17-20 กุมภาพันธ์ 64

9,888

2,000

15

 

3-6 มีนาคม 64

9,888

2,000

15

 

Visitors: 233,905