รหัสสินค้า : HMT-J003-MSC-Grandiosa7N
ไม่พบสินค้า
ราคา |
23,999.00 บาท |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
แพจเกจเดินทางเอง : เที่ยวเรือสำราญกับเรือลำใหม่ล่าสุด ปี 2019 ล่องเรือสำราญทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 7 คืน - Cruise Only
เส้นทาง : เจนัว (อิตาลี) – ซีวีตาเวกเกีย (อิตาลี) – ปาแลร์โม (อิตาลี) – วัลเลตต้า (มอลต้า) บาร์เซโลน่า (สเปน) – มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส) – เจนัว (อิตาลี)
สายการบิน : ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ( เดินทางเอง )
รวม :ห้องพักบนเรือ 7 คืน / อาหารทุกมื้อบนเรือ / เต็มอิ่มกับโชว์และกิจกรรมต่างๆบนเรือ
ไม่รวม : ตั๋วเครื่องบินไปกลับ / ค่ารถรับ ส่ง ระหว่างสนามบิน – ท่าเรือ / ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น/ ค่าทัวร์เสริมบนฝั่ง/ ค่าประกันภัยบนเรือ/ ค่าทิปพนักงานบนเรือ EUR 70 ต่อท่าน / **ไม่มีหัวหน้าทัวร์
>>ราคาห้องพักอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับวันที่ทำการจอง
>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ
**หมายเหตุ:ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจอง,จำนวนห้องพักบนเรือที่ยังว่างอยู่,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
เดินทาง : วันที่ 14 – 21 ธันวาคม 2562 / 11 – 18 มกราคม 2563 / 18 – 25 มกราคม 2563
#เรือสำราญ MSC Grandiosa ล่องเรือยุโรปลำใหญ่ใหม่สุดของเรือสำราญ MSC พร้อมเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2019โดยมีความพิเศษที่มีการเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้นที่มาพร้อมนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย
**สัมผัสประสบการณ์การเดินทางสุดหรูในเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียน 7คืน
เส้นทาง : เจนัว (อิตาลี) – ซีวีตาเวกเกีย (อิตาลี) – ปาแลร์โม (อิตาลี) – วัลเลตต้า (มอลต้า) - บาร์เซโลน่า (สเปน) – มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส) – เจนัว (อิตาลี)
เดินทาง 14 – 21 ธ.ค. 2562 / 11 – 18 ม.ค.2563 / 18 – 25 ม.ค. 2563 (7 คืน) : ราคาเริ่มต้น 23,999.- บาท
วันแรก เจนัว (อิตาลี)- เชคอินลงเรือสำราญ
......... น. เดินทางสู่ท่าเทียบเรือท่าเรือเจนัว (อิตาลี) เพื่อเชคอินลงเรือสำราญ Grandiosa
>>ผู้โดยสารควรถึงท่าเรือเพื่อทำการเช็คอิน อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเรือออก
18.00 น. เรือสำราญ Grandiosa ล่องออกจากท่าเทียบเรือมุ่งหน้าสู่ ซีวีตาเวกเกีย
ท่านสามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม (ชา, กาแฟ) ภายในเรือ ซึ่งมีบริการตลอด 24 ชม. ตามห้องอาหารต่างๆ โดยเรือจะแจ้งให้ท่านทราบผ่าน Cruise Newsletter ทุกวัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
วันที่สอง ซีวีตาเวกเกีย (อิตาลี)
07.00 น.เรือจอดเทียบท่าที่ ซีวีตาเวกเกีย (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ซิวิต้าเวคเคีย เป็นเมืองท่าชายทะเลบนฝั่งทะเลติร์เรเนียน ชื่อของเมืองมีความหมายว่า "เมืองเก่า" ปัจจุบันเป็นท่าเรือสำราญและเฟอร์รี่ที่สำคัญ
>>อิสระซื้อทัวร์เสริมได้กับทางเรือ ,ควรกลับขึ้นเรือสำราญก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
หรืออิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room :บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment:ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆหลากหลาย สไตล์ คาสิโน ดิสโก้เธค ห้องเล่นเกม
-Sport and Activities :สระว่ายน้ำ สปอร์ทคอร์ท ฟิตเนต
-Spa and Wellness :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมายเรือ
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่า เพื่อมุ่งหน้าสู่ ปาแลร์โม (อิตาลี)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่สาม ปาร์แลโม่ (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
10.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองปาร์แลโม่ (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี)
เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ปลายรองเท้าบู๊ตของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปจึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆเริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ ด้วยความที่อยู่ห่างไกลออกมาจะสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม อย่างที่ หาไม่พบอีกแล้วตามเมืองใหญ่ในอิตาลีภาคพื้นทวีป
>>อิสระซื้อทัวร์เสริมได้กับทางเรือ <<
สถานที่ที่น่าสนใจ :
-Palazzo dei Normanniอดีตราชวังของกษัตริย์นอร์แมน ปัจจุบันใช้เป็นสภาท้องถิ่นประจำเมือง -มหาวิหารมอนเรอาเล (Monreale Duomo) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์วิลเลี่ยมที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนซิซิลี ในช่วงปี ค.ศ. 1060 ภายในวิหารท่านจะได้พบกับความอลังการของโมเสกทอง ซึ่งว่ากันว่าใช้ทองในการประดับประดาทั้งหมด 2,200 กก.เลยทีเดียว นับเป็นโบสถ์โมเสกที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์โซเฟียที่ตุรกี และที่น่าอัศจรรย์คือ โมเสกที่เห็นทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8 ปีเท่านั้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
-Cappella Palatina โบสถ์ส่วนพระองค์ของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 พระราชาซึ่งเคยได้ชื่อว่ามีฐานะล่ำซำที่สุดในยุโรป โดยโบสถ์นี้ยังถือเป็นต้นแบบของวิหาร Monreale ที่สร้างขึ้นในอีก 40 ปีให้หลังด้วย หลังคาโดมประดับด้วยโมเสกทองรูปพระเยซูและเทวดาทั้งแปด
-น้ำพุ Fontana della Vergognaน้ำพุแกะสลักสไตล์ไฮเรเนอซองส์ซึ่งสั่งทำจากเมืองฟลอเรนซ์
-โบสถ์ La Matorana โบสถ์สไตล์ไบเซนไทน์ประดับประดาด้วยโมเสกทอง แต่บริเวณทางเข้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค
-โบสถ์ San Cataldo โบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยปี ค.ศ.1160 แต่การก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อผู้ลงทุนทรัพย์ เสียชีวิตลง จึงมีสภาพเปลือยเปล่าดูคลาสสิกตามสไตล์โบสถ์ท้องถิ่น
**ควรกลับขึ้นเรือสำราญก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
17.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือปาร์แลโม่เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเรือวัลเลตตา ประเทศมอลต้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่สี่ วัลเลตต้า (มอลต้า)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00น. เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเมืองวัลเลตตา ประเทศมอลต้า
>>อิสระซื้อทัวร์เสริมได้กับทางเรือ <<
สถานที่ที่น่าสนใจ :
-เมืองเมดิน่า (Mdina) เมืองยอดเขาที่น่าหลงใหล เป็นเมืองที่มีถนนคนเดินปราศจากรถยนต์และอาคารหินทรายที่สวยงามเก่าแก่
-วิหารเซนต์ปอล (Cathedral of Saint Paul) ซึ่งเป็นอาคารบาโร๊กอันงดงามที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวลอเรนโซกาฟ่าชาวมอลต้า วิหารแห่งนี้มีสัญลักษณ์มาดอนน่าอันทรงคุณค่าในศตวรรษที่ 12 และผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงโดยจิตรกรชาวมอลต้าชื่อดัง Mattia Preti
-พระราชวัง Palazzo Santa Sofia พระราชวังอันเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ เป็นอาคารสมัยกลางที่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี
-Palazzo Vilhena เป็นอนุสาวรีย์ที่งดงามซึ่งรวบรวมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของมอลต้าพร้อมด้วยการจัดแสดงผลงานทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นรวมทั้งฟอสซิลแมลงและสัตว์ต่างๆ
-Palazzo Falsonเป็นพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 13 ที่เป็นของตระกูลขุนนางชาวมอลต้า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ Palazzo Falson ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตในสไตล์ดั้งเดิมและมีงานศิลปะและของสะสมโบราณวัตถุที่ยอดเยี่ยม
-พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace)อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้านาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต จากนั้นนำท่านชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี 1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980
-สวนบารัคคา (Barracca Garden)สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี 1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี 1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน
-วิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวิน เซนต์จอห์นเพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16
**ควรกลับขึ้นเรือสำราญก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
18.00 น. เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือวัลเลตตา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ห้า ล่องทะเล ( At Sea )
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย
**พบกับสระว่ายน้ำขนาดกว่า 10 ตารางเมตร ท่ามกลางบรรยากาศแสงอาทิตย์ยามเย็นยิ่งทำให้คุณหลงรักอย่างไม่รู้ตัว
**ห้องออกกำลังกายระดับ World Class ด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายจากTechnogym
**ผ่อนคลายเต็มที่กับ Aurea Spa เป็นสปาสไตล์บาหลีสุดหรูที่ให้บริการทรีทเมนท์ผ่อนคลายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่หัวจรดเท้า
**ความบันเทิงบนเรือมากมาย ทั้งสวนน้ำ ,ห้องเล่นเกมส์ ,ทดลองขับ F1 Simulators,ลานโบลิ่งขนาดมาตรฐาน ,รวมไปถึงห้องเล่นสำหรับเด็กๆ ให้ได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่
**พลาดไม่ได้กับ Cirque du soleil at Sea คณะกายกรรมชื่อก้องโลก ได้รังสรรค์รายการโชว์ใหม่ถึง 2 รายการสำหรับ MSC Grandiosa โดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินในเลานจ์ไฮเทคพร้อมสัมผัสประสบการณ์การทำอาหารชั้นเลิศ
ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่หก บาร์เซโลน่า (สเปน)
**รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
>>อิสระซื้อทัวร์เสริมได้กับทางเรือ <<
สถานที่ที่น่าสนใจ :
-มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงาน ชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็น เพราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรายละเอียดไว้อย่างดี ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายในแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินการก่อสร้างและ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2026
-ถนนลารัมบลา (Larambla)ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืนท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de graciaท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ
-ยอดเขามองเซอร์รัต (Montserrat) ชมวิหารมองเซอร์รัต ซึ่งตั้งอยู่บนเขามองเซอร์รัตที่สูงถึง 1,236 เมตรจากน้ำทะเล ภูเขามองเซอร์รัต มีลักษณะรูปทรงเป็นหินตะปุ่มตะป่ำแปลกประหลาดโดยคำว่า Montserrat หมายถึง ปุ่มปม ซึ่งในภาษาคาตาลัน ซึ่งเป็นภาษาหลักของคนในแถบนี้ใช้สื่อสารกัน ว่ากันว่าบริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อนเพราะยังมีซากเศษหอยอยู่ทั่วไปรวมไปถึงหินรูปทรงประหลาดของยอดเขาก็คาดว่าเกิดจากแรงดันตามธรรมชาตินับล้านปีมาแล้ว อาณาบริเวณที่ตั้งของวิหารมองเซอร์รัตซึ่งซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาได้อย่างตระการตานั้น มีพื้นที่กว้างขวางจนทำให้ฉงนว่าผู้คนในอดีตนำวัสดุก่อสร้างมากมายขึ้นมาสร้างบนเขาที่สูงขนาดนี้ได้อย่างไร เหมือนเมืองในฝันอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ภายในวิหารมีศิลปกรรมที่งดงามตระการตามากมายให้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมรูปปั้นที่ตกแต่งบนอาคารทั้งหลายที่งดงามเกินบรรยาย รอบๆบริเวณวิหารมีทั้งโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิค โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้าขายของที่ระลึก ห้องสมุด ห้องแสดงศิลปะ และสำนักนักบวชเบนาดิก(Benedictine) ซึ่งเป็นองค์กรนักบวชคาทอลิคบริหารวิหารอยู่บนนี้ สถานที่ทั้งหมดจึงเป็นบรรยากาศแบบเงียบเรียบสงบตามแบบฉบับสำนักปฎิบัติธรรมของนักบวช โดยมีจุดเด่นที่มีพระแม่มารีดำ (Black Madonna หรือ The Virgin of Montserrat) ที่มีชื่อเสียงประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวสเปนซึ่งนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิคส่วนใหญ่เขามีความเชื่อว่าภูเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
**ควรกลับขึ้นเรือสำราญก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือบาร์เซโลนา เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่เจ็ด มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส)
08.00 น.เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส
**รับประทานอาหารเช้า , กลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
>>อิสระซื้อทัวร์เสริมได้กับทางเรือหรือเต็มอิ่มกับกิจกรรมต่างๆบนเรือ<<
สถานที่ที่น่าสนใจ :
-ล่องเรือสู่ Chateau d’Ifหนึ่งในป้อมปราการกลางทะเล หรือคุกที่สร้างไว้บนเกาะเพื่อจองจำนักโทษ ตั้งห่างจากชายฝั่งเมืองมาร์กเซย์ประมาณ 1.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นครั้งแรกช่วงปี ค.ศ.1524-1531 ตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 เพื่อเป็นป้อมปราการแนวชายฝั่งตามยุทธศาสตร์ ทางการทหารไว้สำหรับป้องกันการรุกรานทางทะเล ซึ่งภายหลังพบว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง สืบเนื่องจากไม่ได้ถูกรุกรานเลย ทำให้เปลี่ยนมาใช้เป็นคุกสำหรับขังนักโทษแทน
-พระราชวังลองชองป์ (The Palais Longchamp)สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการขุดคลองมาร์กเซย์ (Canal de Marseille) เพื่อการลำเลียงน้ำจากแม่น้ำดูแลนซ์ (Durance River) เข้ามาใช้ในเมืองมาร์กเซย์ โดน ดยุคแห่งออรีน ได้วางรากฐานหินก้อนแรก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 1893 ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 30 ปี พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า อังเร เอสพีรานดี (Henry Esperrandieu) โดยการมีออกแบบสร้างน้ำพุอยู่กลางพระราชวัง จึงได้รับการขนามนามว่า “ปราสาทน้ำพุ” (Water Castle)
-ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ Les Terrasses du portในเมืองมาร์กเซย์
**ควรกลับขึ้นเรือสำราญก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
17.00 น. เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
หมายเหตุ :ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ
วันที่แปด เจนัว (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00น. เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเรือเจนัว (อิตาลี)
จากนั้นรอประกาศจากเจ้าหน้าที่เรือเกี่ยวกับเวลาขึ้นเรือ
**ผ่านพิธีการตรวจลงตราหนังสือ ณ ท่าเรือ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งท่านต้องมายืนยันระบุรับด้วยตนเอง ณ บริเวณห้องโถงของท่าเรือ
**สำคัญมาก : ตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนออกจากท่าเรือ
…… น. ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน ………
…… น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดย สวัสดิภาพ
….Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by HMT
รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า
ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ
หมายเหตุ ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ แทนได้***
อัตราค่าบริการ : วันที่ 14 – 21 ธ.ค. 2562 / 11 – 18 ม.ค.2563 / 18 – 25 ม.ค. 2563 (7 คืน)
ประเภทห้องพัก |
ราคา ( พักคู่ / ต่อท่าน ) |
ห้องพักแบบไม่มีหน้าต่าง |
23,999.-บาท |
ห้องพักแบบมีหน้าต่าง |
27,999.-บาท |
ห้องพักแบบมีระเบียง |
33,999.-บาท |
**ค่าทิปพนักงานบนเรือ EUR 70 ต่อท่าน
**ราคาห้องพักอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับวันที่ทำการจอง