รหัสสินค้า : HMT-E006-MSC GRANDIOSA10D-TK
ไม่พบสินค้า
ราคา |
92,900.00 บาท |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
ทัวร์กรุ๊ป : ล่องเรือสำราญ MSC GRANDIOSA ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 10 วัน - รวมตั๋วเครื่องบิน,เดินทางพร้อมหัวหน้าทัวร์
เส้นทาง : (อิตาลี) มิลาน– เจนัว – เนเปิ้ล – (เกาะซิซิลี) เมสซิน่า – ทาร์ออมีนา – (มอลต้า) วาเลตต้า- (สเปน) บาร์เซโลน่า – ฌิโรนา (สถานที่ถ่ายทำ Game of Throne) – (ฝรั่งเศส) มาร์กเซย์ –มิลาน
สายการบิน : Turkish Airlines ( TK )
รวม : ที่พักบนเรือ /ตั๋วเครื่องบินระหว่างกรุงเทพ-มิลาน / รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ พร้อมทัวร์บนฝั่งตามที่ระบุ /ภาษีท่าเรือ / อาหารบนเรือทุกมื้อ / กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ / **มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง
ไม่รวม : ค่าวีซ่าเชงเก้น ประมาณ 2,800 – 3,000 บาท , ค่าบริการเรือ (Service Fee) ท่านละ EUR 70 ซึ่งเรือจะชาร์ตเข้าครุยส์การ์ด
พิเศษ!! ราคานี้รวมค่าทิปไกด์และทิปคนขับรถ และ ทัวร์พาเที่ยวทุกประเทศ
>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ
**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
เดินทาง : 11 - 20 เมษายน 2563 ( สงกรานต์ )
11 เม.ย. 63 กรุงเทพมหานคร
18.30 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน U (แถว U 14-18)ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
21.45 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
12 เม.ย. 63 อิสตันบูล – มิลาน – เจนัว
04.10 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูลแวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK1873อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินอิสตันบูลซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย
07.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล (IST) สู่สนามบินมัลเพนซา (MXP)โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ส บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.)
09.30 น.เดินทางถึงสนามบินมัลเพนซา เมืองมิลาน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (Genoa) (ระยะทาง 132 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) หนึ่งในเมืองท่าสำคัญของประเทศอิตาลี นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสนักเดินเรือชื่อดังก้องโลกและเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกา ซึ่งถือกำเนิด ณ เมืองเจนัวแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเข้าชม โบสถ์ประจำเมือง หรือ ดูโอโม่ (Genoa Duomo)ที่สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์ และโกธิค ในสมัยศตวรรษที่ 12-14 และน้ำพุกลางเมือง จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมและช้อปปิ้งที่เปียซซ่า เฟร์รารี่ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นบริเวณที่โคลัมบัสเคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งตอนเด็กๆ จากนั้น อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของที่ระลึกตามอัธยาศัย
(***ร้านค้าในยุโรปบางร้านอาจปิดให้บริการในวันอาทิตย์)
15.00 น. นำท่านเช็คอินขึ้น เรือสำราญลำใหม่ล่าสุดปี 2019 ของ MSC Cruise “MSC GRANDIOSA”ซึ่งเป็นเรือสำราญที่จะเปิดปฐมฤกษ์ในเส้นทางล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในปี 2020ด้วยระวางเรือขนาด 181,000 ตัน จุผู้โดยสารได้กว่า 6,334 คน พร้อม Entertainment Complex ขนาดใหญ่ ที่พร้อมให้บริการบนเรือสำราญ
17.00 น. เรือสำราญเดินทางออกจากท่าเทียบเรือเจนัว มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือเนเปิ้ล ประเทศอิตาลี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
13 เม.ย. 63 เนเปิ้ล (ประเทศอิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room :บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment:ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆหลากหลาย สไตล์ คาสิโน ดิสโก้เธค ห้องเล่นเกม
-Sport and Activities :สระว่ายน้ำ สปอร์ทคอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมายเรือ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
13.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่เมืองเนเปิ้ล
นำท่านชมเมืองเนเปิ้ล (Naples)หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเนเปิ้ล (Province of Naples) และแคว้นกัมปาเนีย (Campania) แคว้นที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศอิตาลีนั่นเองเมืองเนเปิ้ลตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลีติดกับอ่าวเนเปิ้ล (Naples Bay) กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ภูเขาไฟสองแห่ง คือ ภูเขาไฟ วิสุเวียส และกัมปีเฟลเกรย์และยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิ้ลจึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิ้ลยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1995 นำท่าน ชมและถ่ายรูปกับ จตุรัสเพิลบิสซิโต (Piazza del Plebiscito) หนึ่งในจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองเนเปิ้ล ตั้งอยู่ใกลๆกับบริเวณอ่าว ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าอาคารสถานที่ที่มีความสำคัญของเมือง แวะถ่ายรูปกั มหาวิหาร Basilica Reale Pontificia San Francesco da Paolaโบสถ์โรมันคาธอลิคสมัยใหม่แบบสไตล์นีโอคลาสสิค สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1816 ตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ โจอาคิม มูรัต แห่งเนเปิ้ล เพื่อเป็นเครื่องราชบรรณาการแก่จักรพรรดิ จากนั้นนำท่าน เข้าชมปราสาทโอโว (Ovo Castle) หรือชื่อเต็มคือ Castle dell’Ovoอดีตป้อมปราการริมทะเลที่มีความเก่าแก่ที่สุดของเมืองเนเปิ้ล ซึ่งก่อสร้างในช่วงศตวรรษที่ 12 เพื่อเป็นที่พำนักของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 แห่งซิซิลี เนื่องด้วยสถานที่ตั้งของปราสาทเป็นจุดพิชัยยุทธ์ชั้นยอดทางทะเลซึ่งสามารถเห็นอ่าวและเมืองเนเปิ้ลได้จากยอดปราสาท จึงมีการช่วงชิงและผลัดเปลี่ยนมือความเป็นเจ้าของในหลายยุคสมัย รวมถึงเคยถูกใช้เป็นคุกไว้คุมขังกษัตริย์และราชวงศ์ที่ตกเป็นเชลยสงครามในช่วงยุคสมัยหนึ่ง
18.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเทียบเรือเนเปิ้ล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
20.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือเนเปิ้ล เพื่อมุ่งหน้าสู่ เมืองเมสซิน่า ประเทศอิตาลี
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
14 เม.ย. 63 เมสซินา (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี)
08.00 น.เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองเมสซินา (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี) ซิซิลี เกาะใหญ่ปลายรองเท้าบู๊ตของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปจึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆเริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาร์ออมีนา(Taormina) เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาชายทะเลงดงามดังภาพวาดที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟเอ็ดน่า ที่ยังคุกรุ่นอยู่ มีความสูง 3,350 เมตร ที่ยอดเขาถูกปกคลุมคลุมด้วยหิมะ
จากนั้นนำท่าน เข้าชมโรงละครกรีก(Greek Theatre) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล เป็นโรงละครกรีกที่ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดในบรรดาโรงละครกรีกทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก ด้านหลังเป็นวิวของเมืองทอร์มิน่าบนไหล่เขา ทะเลไอโอเนียน และภูเขาไฟเอ็ดน่า โรงละครกรีกแห่งนี้ยังคงถูกใช้งานในช่วงฤดูร้อน โดยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลงานศิลปะนานาชาติของเมืองที่มีชื่อว่า ทอร์มิน่า อาร์เต้ นำท่านเดินทางสู่ ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้(Corso Umberto) ถนนสายหลักของเมือง โดยสองข้างทางมีร้านอาหาร, ร้านขายของฝากและสินค้าพื้นเมืองมากมาย นำท่านแวะถ่ายรูปวิหารซานนิโคลา ( Cathedral of San Nicola ) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเทอร์มินา สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางศตวรรษที่ 13 สไตล์บาโรค
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองเมสซินา (Messina) นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสกลางเมืองเมสซิน่า(Piazza del Duomo) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมือง นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับ มหาวิหารเมสซินา (Messina Cathedral) หรือ ดูโอโม่ประจำเมือง ที่มีนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่บนหอระฆัง ตัวโบสถ์ดั้งเดิมถูกสร้างขึ้นในยุคนอร์มัง เมื่อปี ค.ศ.1147 แต่เสียหายอย่างยับเยินจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.1908 ถูกบูรณะใหม่ขึ้นโดยอาร์คบิชอป Angelo Paino อีกสองครั้ง จนมีสภาพสวยงามดังปัจจุบัน จากนั้นมีเวลาอิสระให้ท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัสแห่งนี้
17.00 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือเมืองเมสซิน่า
18.00 น. เรือออกจากท่าเทียบเรือเมสซิน่ามุ่งหน้าสู่ เมืองวาเลตต้า ประเทศมอลต้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
15 เม.ย. 63 วัลเลตตา - เมดิน่า (ประเทศมอลต้า)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเมืองวัลเลตตา ประเทศมอลต้า
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมดิน่า (Mdina) เมืองยอดเขาที่น่าหลงใหล เป็นเมืองเล็กๆที่มีถนนคนเดินปราศจากรถยนต์และอาคารหินทรายที่สวยงามเก่าแก่ นำท่าน ถ่ายรูปวิหารเซนต์ปอล (Cathedral of Saint Paul) ซึ่งเป็นอาคาร บาโรคอันงดงามที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวลอเรนโซกาฟ่าชาวมอลต้า วิหารแห่งนี้มีสัญลักษณ์มาดอนน่าอันทรงคุณค่าในศตวรรษที่ 12 และผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงโดยจิตรกรชาวมอลต้าชื่อดัง Mattia Preti แวะถ่ายรูปพระราชวัง Palazzo Santa Sofia พระราชวังอันเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ เป็นอาคารสมัยกลางที่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี ผ่านชม Palazzo Vilhena เป็นอนุสาวรีย์ที่งดงามซึ่งรวบรวมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของมอลต้าพร้อมด้วยการจัดแสดงผลงานทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นรวมทั้งฟอสซิลแมลงและสัตว์ต่างๆ ผ่านชม Palazzo Falson เป็นพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 13 ที่เป็นของตระกูลขุนนางชาวมอลต้า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตในสไตล์ดั้งเดิมและมีงานศิลปะและของสะสมโบราณวัตถุที่ยอดเยี่ยม ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองวัลเลตตา (Valetta)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่าน เข้าชม พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้านาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต จากนั้นนำท่านชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี ค.ศ.1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1980 จากนั้นนำท่านชม สวนบารัคคา(Barracca Garden) สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี ค.ศ.1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน นำท่านถ่ายรูปกับวิหารเซนต์จอห์น(St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวิน เซนต์จอห์นเพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16
17.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเมืองวัลเลตตา
18.00 น. เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือวัลเลตตา เพื่อมุ่งหน้าสู่ กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
16 เม.ย. 63 ล่องทะเล ( At Sea )
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room :บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment:ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆ หลากหลาย
-Sport and Activities :สระว่ายน้ำ สปอร์ทคอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
17 เม.ย. 63 บาร์เซโลนา – ฌิโรนา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฌิโรนา (Girona) (ระยะทาง 102 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) หนึ่งในเมืองสำคัญของแคว้นคาตาลุญญา ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ในอดีตเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน ปัจจุบันเต็มไปด้วยบ้านเรือนหลากสีสันที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำออนญา (Onyar River) มีชื่อเสียงจากการถูกใช้เป็นฉากหลักในการถ่ายทำเมือง Bravos และเมือง King’s Landing ในการถ่ายทำซีรีย์ชื่อดัง Game of Throne ตั้งแต่ปี ค.ศ.2011 นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่า (Old Town)ที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยเล็กๆมากมาย เคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวยิวเมื่อช่วงปี ค.ศ.982-1492 นำท่านถ่ายรูปกับ วิหารซานต้ามาเรียแห่งฌิโรนา (Cathedral of Santa Maria de Girona) โบสถ์โรมันคาธอลิกโบราณ ก่อสร้างตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 11 แบบสไตล์โรมาเนสก์ มีการต่อเติมหลายยุคสมัย อาทิเช่น สไตล์โกธิคช่วงศตวรรษที่ 13 และสไตล์บาโรคในภายหลังต้นศตวรรษที่ 17 ก่อนจะเสร็จสิ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 ทำให้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมหลากหลายที่มีความสวยงามอย่างลงตัว บริเวณด้านหน้าโบสถ์เป็นบันไดสไตล์บาโรค ที่เป็นฉากถ่ายทำสำคัญของซีรี่ย์ Game of Throne
จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์แห่งเซนต์เฟลิกส์ (Basilica de Sant Feliu) อีกหนึ่งโบสถ์สำคัญที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่สองของเมืองฌิโรนาซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับวิหารซานต้ามาเรีย ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 12-17 ผ่านชมภายนอก อาราม Monastery of Sant Pere de Galligantsสำนักสงฆ์โบราณตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 จากนั้นชม The Steps of Sant Domenec อีกหนึ่งฉากถ่ายทำหนังสำคัญในย่านเมืองเก่าซึ่งเป็นขั้นบันไดสไตล์บาโรค
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองบาร์เซโลนา(Barcelona)(ระยะทาง 102 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) จากนั้นนำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนา ถนนลารัมบลา (Larambla)ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de graciaท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ
17.00 น. นำท่านกลับสู่ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือบาร์เซโลนา เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
18 เม.ย. 63 มาร์กเซย์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส
นำท่านเข้าชม โบสถ์นอเทรอดาม เดอลาการ์ด (Basilique Notre-Dame de la Garde) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีรูปพระแม่มารีเป็นองค์ประธาน เล่ากันว่าในสมัยก่อนคนแถบนี้มักมาขอพรกับพระนางเพื่อให้การเดินเรือปลอดภัยและเมื่อเดินเรือปลอดภัยกลับมาแล้วก็มักจะนำเอาเครื่องแขวนมาเป็นของแก้บน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเทศบาลเมืองได้ปรับปรุงให้สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานอันศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมาร์กเซย์ จากนั้นนำท่านเข้าชม วิหารมาร์กเซย์ (Marseille Catherdal) โบสถ์โรมันคาธอลิกที่ก่อสร้างใหม่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 บนรากฐานของโบสถ์เดิมเมื่อยุคศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศฝรั่งเศส หอระฆังมีความสูง 142 เมตร และภายในสามารถรองรับศาสนิกชนได้ถึง 3000 คน เป็นหนึ่งในวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์มิวเซม(MUCEM Museum) หรือชื่อเต็มคือ Museum of European and Mediterranean Civilisations เปิดให้บริการครั้งแรกตั้งแต่ 7 มิ.ย. 2013 ในปีที่มาร์กซย์ได้ถูกมอบหมายให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป (European Capital of Culture) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อุทิศให้กับอารยะธรรมยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน ที่ผสมผสานของวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติในแถบเมดิเตอร์เรเนียนผ่านสังคมผ่านยุคสมัยตั้งแต่ในอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน โดยมีคอลเลคชั่นวัตถัโบราณที่จัดแสดงมากกว่า 350,000 ชิ้นภายในพิพิธภัณฑ์ เป้าหมายของพิพิธภัณฑ์คือการส่งเสริมมรดกทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วัฒนธรรมเกี่ยวกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล จากนั้นได้เวลาสมควร อิสระให้ท่านช้อปปิ้งบริเวณถนนคนเดิน Rue Paradis และ Rue Grignan ก่อนนำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
17.00 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
18.00 น. เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือเจนัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
หมายเหตุ:ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ
19 เม.ย. 63 เจนัว - มิลาน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00น. เรือจอดเทียบท่าที่ท่าเรือเจนัว (อิตาลี)
นำท่านเดินทางสู่หนึ่งในช้อปปิ้งเอาท์เลทขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป SERRAVALLE Shopping Outlet(ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองมิลาน สถานที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมือง และจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein, Guess, Etro, Nike, Mariella Burani, Swarovski และอื่นๆอีกมากมาย โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดปี อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) (ระยะทาง 93 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (Duomo)เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสอง รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงวาติกัน (เป็นมหาวิหารแบบโกธิคและใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า ด้านหน้าของมหาวิหารเป็นลานกว้าง เรียกว่า เปียซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) เป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย ด้านข้างของจตุรัสหน้าดูโอโม่ทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน อิสระให้ท่านถ่ายรูปและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย (***ร้านค้าในยุโรปบางร้านอาจปิดให้บริการในวันอาทิตย์)
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน (MXP) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund
19.45 น. ออกเดินทางจากสนามบินมิลาน สู่ สนามบินอิสตันบูลโดยเที่ยวบินที่ TK1876 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.50 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน
23.40 น. เดินทางมาถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเครื่อง
20 เม.ย. 63กรุงเทพมหานคร
01.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TK 68 สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า
15.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ….
….Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by HMT
รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า
ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ
หมายเหตุ ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ แทนได้***
อัตราค่าบริการ : เดินทาง สงกรานต์ 11 - 20 เม.ย.63
อัตราค่าบริการ |
11 – 20 เม.ย. 2563 |
ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องคู่ INSIDE) ท่านละ |
92,900 |
อัพเกรดเป็นห้องพักแบบมีระเบียงทะเล (พักห้องคู่ Sea-View Balcony) ท่านละ |
12,000 |
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ (คิดที่ห้องพักแบบ INSIDE ซึ่งเป็นราคาเริ่มต้น) |
30,000 |
ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ |
95,000-130,000 |
ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักค่าใช้จ่าย (ผู้ใหญ่) (ไม่รวมตั๋ว BKK-IST-BCN-IST-BKK) |
20,000 |
กรณีมีวีซ่าแล้วหรือไม่ต้องยื่นวีซ่า หักค่าใช้จ่าย |
ไม่รวมวีซ่า |
**ราคาไม่รวม :
-ค่าวีซ่าเชงเก้น ประมาณ 2,800 – 3,000 บาท
-ค่าบริการเรือ (Service Fee) ท่านละ EUR 70 ซึ่งเรือจะชาร์ตเข้าครุยส์การ์ด
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ
และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 23 ก.ค. 2562) **