ทัวร์เบตง Luxury Batong 3 วัน 2 คืน บิน ไทยสมายด์ (WE)ขึ้น SkyWalkเบตง ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง วัดพุทธาวาส วัดช้างให้ เที่ยวทั่วไทยสไตล์ทัวร์นอก

รหัสสินค้า : CHIC-D006-LUXURY BETONG

ราคา

17,900.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 17,900.00 บาท

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : ทัวร์ใต้ ทัวร์เบตง Luxury Batong 3 วัน 2 คืน

สายการบิน : ไทยสมายด์ (WE)

เดินทาง : 22 - 24 มกราคม 2564

รายละเอียด :หาดใหญ่ วัดช้างให้ หลวงปู่ทวด สะพานจุดชมวิวเขื่อนบางลาง เบตง อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ตู้ไปรษณีย์ หอนาฬิกาเบตง อัยเยอร์เวง Skywalk ชม ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง สะพานแตปูซู น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ร้านเฉาก๋วยเบตง กม.4 สวนหมื่นบุปผา อุโมงค์ปิยะมิตร บ่อน้ำร้อนเบตง ถ่ายรูปป้ายใต้สุดสยาม หาดใหญ่ วัดพุทธาวาส

**พักโรงแรมระดับ 4 ดาว

เมนูพิเศษ :เมนูปลาพลวงชมพูนึ่งซีอิ้ว โลละ 3500 และเมนูปลานิลสายน้ำไหลลวกจิ้ม

ราคา 17,900 บาท

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

             
                 

 

ทัวร์เบตง Luxury Batong 3 วัน 2 คืน บิน WE 

จุดเด่น
-บินสายการบิน
Thai Smile
-พิเศษ ปาท่องโก๋การบินไทย อร่อยไม่ต้องรอคิว
-พักโรงแรม Grand Mamdarin  Batong

-Free Wifi ตลอดการเดินทาง
-มีบริการเครื่องชงกาแฟบนรถ

-เดินทางด้วยรถ  Sprinter Benz ตลอดทั้งทริป
-เมนูพิเศษ ปลาพลวงชมพู กิโลกรัมละ 3,500 บาท  

 วันเดินทาง    22-24 มค.64   ราคา 17,900 บาท

รับได้เพียงพีเรียดละ 10 ท่านเท่านั้น !!

 เสิร์ฟเมนูสุดพิเศษเมนูปลาพลวงชมพูนึ่งซีอิ้ว โลละ 3500 และเมนูปลานิลสายน้ำไหลลวก จิ้ม

พิเศษให้ท่านได้เดินทางด้วยรถ Sprinter Benz พร้อม Wifi  และกาแฟ True coffee

ตลอดการเดินทางบนรถ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบคัน

พักค้างคืนที่โรงแรม Grand Mandarin Betong  เป็นโรงแรมที่ดีที่สุด

ใหญ่ที่สุด  และตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดในตัวเมืองเบตง

  

วันแรก         สนามบินสุวรรณภูมิ-หาดใหญ่ - ปัตตานี - อ.เบตง
07.30 น.    ออกเดินทางสู่ สนามบินหาดใหญ่ โดยสายการบิน Thai Smile เที่ยวบินที่06.00 น.    เช็คอินที่เคาน์เตอร์เช็คอิน B ประตู 1-2 สายการบิน Thai Smile WE259 (บินตรง) (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

09.00 น.    เดินทางถึง สนามบินหาดใหญ่ หลังจากผ่านขั้นตอน และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดปัตตานี จากนั้นพาท่านถ่ายภาพ มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองปัตตานีที่ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีความโดดเด่น และยังเป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง รูปทรงภายนอกของมัสยิดมีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล เป็นสถานที่เมื่อมาถึงปัตตานี ต้องมาชมศิลปและความสวยงามของตัวอาคาร มัสยิดแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย พาท่านเยี่ยมชม ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ความศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองปัตตานีมาแต่โบราณ ตั้งอยู่ในตัวเมืองปัตตานี เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศูนย์รวมจิตใจและศูนย์รวมศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนในปัตตานี ในต่างจังหวัด และในต่างประเทศ ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า “ศาลเจ้าเล่งจูเกียงหรือชื่อที่ชาวบ้านเรียก “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ติดกับศาลเจ้าแม่ ยังมี มัสยิดกรือเซ๊ะ หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์ เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในจังหวัดปัตตานี สันนิษฐานได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 ร่วมสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัสยิดปิตูกรือบัน ชื่อนี้เรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบกอทิกของชาวยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลางย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่าปัตตานี ซึ่งงดงามด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่หลายแบบ หลากสไตล์ ผ่อนคลายอารมณ์ชมเมืองเก่าที่สวยงามแปลกตาอีกด้วย

เที่ยง        รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร “พี่อูม”

ออกเดินทางสู่ วังยะหริ่ง หรือวังเจ้าเมืองยะหริ่ง ตั้งอยู่ที่ ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2428 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระยาพิพิธเสนามาตยาธิบดีศรีสุรสงคราม เจ้าประเทศราชเมืองยะหริ่ง อันดับ 3 ซึ่งเป็นบุตรของพระยาพิบูลเสนานุกิจพิเชษฐ์ภักดี พระยาเมืองยะหริ่งอันดับที่ 2 ในอดีตเมืองยะหริ่งเป็นประเทศราชของไทย ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการด้วยต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง ให้แก่ไทย 3 ปี ต่อ 1 ครั้งและต้องส่งทหารไปช่วยรบยามเกิดศึกสงคราม เรือนไม้กึ่งปูน สร้างขึ้นแบบสไตล์ยุโรป ผสมผสานศิลปกรรมพื้นเมือง และชวา ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองยะหริ่งในปัจจุบัน นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวยะหริ่งยิ่งนัก เพราะสถาปัตยกรรมทรงคลาสสิคหลังนี้ ได้ทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนจากต่างแดนอยู่เป็นกิจวัตร

ออกเดินทางสู่ อ.เบตง ระหว่างทางให้ท่านได้แวะถ่ายภาพสวยๆกับ สะพานแตปูซู เป็นสะพานแขวนไม้เก่าแก่สร้างข้ามแม่น้ำปัตตานี มีนายมูเซ็ง แตปูซู เป็นผู้บุกเบิก ได้เวลาพอสมควรนำท่านไปทานมื้อค่ำ

ค่ำ           รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร ต้าเหยิน (กิตติ)

พักค้างคืน ที่Grand Mandarin Betong Hotel 

 

วันที่สอง    ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - สวนหมื่นบุปผา - อุโมงค์ปิยะมิตร - บ่อน้ำร้อนเบตง
04.30       นำท่านเดินทางสู่ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง Sky Walk Betong สำหรับจุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง หรือ “จุดชมทะเลหมอกไมโครเวฟ” เดิมชาว
บ้านเรียกขานกันว่า

“บูเก๊ะเฉง” หรือ “ภูเขาเจ๊ง” เพราะกว่าจะเดินทางถึงก็หมดแรง ต้องทิ้งข้าวของจึงจะไปต่อได้ มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล2,038 ฟุต ให้ท่านเต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกแบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดได้อย่างเต็มอิ่ม พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ( ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ)

เช้า          รับประทานอาหารเช้า ณบริเวณจุดชมวิว ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

นำท่านเดินทางสู่ สวนหมื่นบุปผา หรือเรียกว่า สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสมด้วยสภาพภูมิอากาศที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี จึงมีความเหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เป็นโครงการตามพระราชดำริวิสาหกิจชุมชน มีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง คอยเชื้อเชิญผู้มาเยือน ได้แก่ แอสเตอร์ ไฮเดรนเยีย เบญจมาศ กุหลาบ พีค๊อก เยอบีร่า ลิลล่า แกลดิโอลัส ตุ้มหูนางฟ้า และอีกหลากหลายสายพันธุ์ ให้ท่านได้ถ่ายภาพตามอัธยาศัย

เที่ยง        รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารปลานิลสายน้ำไหล

                 ( พิเศษด้วยเมนูปลาพลวงชมพูนึ่งซีอิ้ว โลละ 3500 พร้อมกับปลานิลสายน้ำไหลลวกจิ้ม )

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ อุโมงค์ปิยะมิตร ในอดีตเคยถูกใช้เป็นฐานในการหลบซ่อนตัว และเป็นแหล่งสะสมเสบียงในการต่อสู่กับกลุ่มผู้ขัดแย้งทางการเมืองในคาบสมุทรมาลายา ในเวลาต่อมากลุ่มผู้เคยใช้อุโมงค์แห่งนี้เป็นที่พักพิง ไม่มีหลงเหลือแล้ว แต่ห้องหับและร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้ยังคงถูกจารึกไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้ใช้ประโยชน์จากการรำลึกถึงการต่อสู้อันแสนเจ็บปวดในอดีต ภายในอุโมงค์ถูกแบ่งเป็นห้องต่างๆ ตามการใช้งาน เช่นห้องนอน ห้องเก็บเสบียง เป็นต้น อากาศภายในเย็นสบายไม่อึดอัด ภายในอุโมงค์มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ระหว่างทางเดินไปสู่อุโมงค์ต้องเดินผ่านป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส และบริเวณที่น้ำเดือดนี้สามารถต้มไข่ได้จนสุกภายใน 7 นาทีเท่านั้น มีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับกักน้ำจากน้ำผุร้อน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเล่น

ต่อจากนั้นนำท่านเดินทางเยี่ยมชม ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง เป็นสนามบินลำดับที่ 29 ของกรมท่าอากาศยาน ตั้งอยู่กลางหุบเขา ในพื้นที่ ตำบลยะรม อำเภอเบตง สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนไม่ค่อยทราบนั่นคือ อำเภอเบตงนั้นเป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นเพราะพื้นที่บริเวณนั้นมีไผ่ตงเป็นจำนวนมาก และหากท่านใดเคยแวะไปที่เบตงก็คงจะทราบดีว่าบรรยากาศที่นั่นล้อมรอบด้วยภูเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ ผู้ออกแบบจึงได้หยิบยกความโค้งของภูเขามาเป็นเส้นสายหลักผสานกับรูปทรงสมัยใหม่ และตกแต่งโดยใช้วัสดุที่สื่อถึงธรรมชาติของอำเภอเบตง เช่นไม้ไผ่และหินอ่อนที่มีลวดลายสื่อถึงทะเลหมอก

ระหว่างทางกลับสู่อำเภอเมืองเบตง พาท่านแวะชม วัดพุทธาธิวาส วัดอารามหลวง

“วัดพุทธาธิวาส” เดิมชื่อ“วัดเบตง” ในวัดมีเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ที่หมายถึงการประกาศธรรมของพระพุทธเจ้า ตั้งเด่นเป็นสง่าด้วยศิลปะศรีวิชัยอันสวยงามสมส่วน ภายในเจดีย์ชั้นบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และมีพระพุทธธรรมประกาศเป็นพระประทาน มีรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้นล่าง

หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ในยามค่ำคืนนำท่านเที่ยวชมความสวยงามและถ่ายภาพกับสถานที่สำคัญภายในตัวเมืองเบตงได้ อาทิเช่น หอนาฬิกา / ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุด/อุโมงค์มงคลฤทธิ์/ถนนคนเดิน สตรีทอาร์ต Street Art เป็นต้น

ค่ำ           รับประทานอาหารค่ำ ณร้านอาหารบ้านคุณชาย

พักค้างคืน ที่Grand Mandarin Betong Hotel

 วันที่สาม         อ.เบตง - ยะลา - หาดใหญ่ - กรุงเทพมหานคร

เช้า          รับประทานอาหารเช้าแบบติ่มซำ ณ ร้านไทซีฮี้ ( ร้านต้นตำหรับดั้งเดิมของเบตง )

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ชายแดนไทย-มาเลเซีย ถ่ายภาพกับป้าย ใต้สุดแดนสยาม เป็นป้ายกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย มีเอกลักษณ์ลายเส้นแผนที่ประเทศไทยสีทองโดดเด่นสลักบนป้ายหินอ่อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและไม้ดอกไม้ประดับงดงาม

จากนั้นพาท่านเดินทางสู่อำเภอเมืองยะลา โดยระหว่างทางแวะถ่ายภาพ ณ จุดชมวิวเขื่อนบางลาง เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำปัตตานี อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกของภาคใต้ ตามแผนพัฒนาลุ่มน้ำปัตตานี โดยมรการสร้างเสร็จ เมื่อปี 2524 และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง

ประเทศไทย อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนยังอำนวยประโยชน์ในด้านชลประทานไปสู่พื้นที่เพาะปลูกของยะลา และปัตตานี ซึ่งน้ำที่ปล่อยออกมาก็จะนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า จ่ายให้แก่ประชาชนในภาคใต้ได้ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม อีกทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญของทางภาคใต้

เที่ยง        รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารธารา

พาท่านออกเดินทางไปเยี่ยมชม วัดช้างให้ ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธ์ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี วัดช้างให้ ถือว่าเป็นวัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด เพราะท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ วัดช้างให้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของจังหวัดปัตตานี ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบสักการะหลวงปู่ทวดอย่างไม่ขาดสาย ที่เรียกว่าเมื่อมาถึงปัตตานีดินแดนแห่งปลายด้ามขวานแล้วต้องแวะมาให้ได้

ได้เวลาพอสมควรนำท่านสู่ สนามบินหาดใหญ่ ระหว่างทางแวะเช็คอิน คาเฟ่ต์ ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ @ Café Amazon อิสระให้ท่านได้พักผ่อนหรือรับประทานอาหารตามอัธยาศัย

18.30 น.     ออกเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่

20.55 น.     ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Thai Smile เที่ยวบินที่WE268

22.20 น.     เดินทางถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

 
#Chic Journey Southern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

Visitors: 233,906