รหัสสินค้า : CHIC-ZZFT-BETFD4D-DMK2
ไม่พบสินค้า
ราคา |
7,990.00 บาท |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
เที่ยวในประเทศ : เที่ยวไทย เบตงสุดฟิน ยิ่งกว่าโอเค สงกรานต์หรรษา@ ทัวร์เบตง 3วัน 2คืน
โดยสายการบิน : Air Asia ( FD ) สนามบินดอนเมือง , เหมาลำ
เดินทาง : สงกรานต์ เมษายน 2564
รายละเอียด : กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง หาดใหญ่ ปัตตานี ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว บ้านขุนพิทักษ์รายา ยะลา จุดชมวิวสะพานข้ามเขื่อนบางลาง เบตง จุดเช็คอินป้ายโอเคเบตง สตรีทอาร์ต วงเวียนหอนาฬิกาเบตง ตู้ไปรษณีย์โบราณ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ วัดพุทธาธิวาส วัดกวนอิม ป้ายใต้สุดสยาม สนามบินเบตง ร้านของฝากเมืองเบตง-ร้านวุ้นดำ ต้นตำรับ (เฉาก๊วย ก.ม. 4)–สวนหมื่นบุปผา-อุโมงค์ปิยะมิตร-บ่อน้ำพุร้อน-ศาลาประชาคมเบตง ขึ้นสกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง สะพานแขวนแตปูซู ล่องเรือทะเลสาบฮาลาบาลา เกาะทวด วัดช้างให้ หาดใหญ่ ตลาดกิมหยง
**พักเบตง 2 คืน , หาดใหญ่ 1 คืน
ราคาเริ่มต้น 7,990 บาท
หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง ,เที่ยวบินและเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
ทัวร์ในประเทศ : เที่ยวในประเทศ เที่ยวไทย ใต้สุดสยามเมืองในหมอก
เบตงสุดฟิน ยิ่งกว่าโอเค สงกรานต์หรรษา@ ทัวร์เบตง 3วัน 2คืน
เที่ยวแบบ ฟิน ฟิน ช้อปปิ้งจุใจ ฟรี…น้ำหนักกระเป๋า ไป-กลับท่านละ 15 กก.
-ขึ้น สกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ชมวิวทะเลหมอกแบบ 360 องศา
-ชมบ้านขุนพิทักษ์รายา บ้านโบราณร้อยปี สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว แห่งเมืองปัตตานี
-ล่องเรือชมความงามทะเลสาบฮาลาบาลา ,เที่ยวชมเกาะทวด พร้อมขอพรรับโชคลาภสุดเฮง
-ชมจุดไฮไลท์สุดฮิต สตรีทอาร์ตเบตง, ตู้ไปรษณีย์โบราณ, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ และป้ายใต้สุดสยาม
-ชมอุโมงค์ปิยะมิตร ถ่ายรูปสุดเก๋กับต้นไม้พันปี, ชมความงามสวนหมื่นบุปผา, แช่เท้าบ่อน้ำพุร้อนเบตง
-พาชิมเฉาก๊วยเบตง(วุ๊นดำ ก.ม.4) ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน
-ลิ้มรส เมนูชื่อดัง ไก่เบตง, เคาหยก, กบภูเขาทอด, ผักน้ำผัดน้ำมันหอย และ จิ้มจุ่มปลานิลสายน้ำไหล
**เดินทางสงกรานต์ เมษายน 2564 :เริ่มต้น 7,990.-บาท
วันแรก กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง–หาดใหญ่–ปัตตานี–ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว-บ้านขุนพิทักษ์รายา-ยะลา-จุดชมวิวสะพานข้ามเขื่อนบางลาง-เบตง-จุดเช็คอินป้ายโอเคเบตง-สตรีทอาร์ต-วงเวียนหอนาฬิกาเบตง-ตู้ไปรษณีย์โบราณ-อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
05.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมืองบริเวณอาคาร 2 ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ สายการบินไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร **หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 20 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วชั้นประหยัดพิเศษ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน
07.00 น. ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ หาดใหญ่ โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia) เที่ยวบินที่ FD8001 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
08.30 น. เดินทางถึง สนามบินหาดใหญ่ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่จังหวัดปัตตานี โดยรถตู้ปรับอากาศ *หากต้องการเลือกที่นั่งบนรถมีค่าบริการเพิ่มเติม* (ระยะทาง 118 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง โดยประมาณ)
จากนั้นนำท่านชม ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเชื่อกันว่าผู้มาขอพรให้โชคลาภจะได้ผล หรือแม้แต่การค้าขายที่ซบเซาหรือขาดทุนก็กลับรุ่งเรืองขึ้นจนทำให้เกิดความนับถือศรัทธาอย่างมาก ชาวปัตตานีจึงได้นำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะสลักเป็นรูปบูชาและรสร้างศาลเจ้าขึ้นสักการะ สำหรับองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาโชคลาภ ค้าขาย ซึ่งเป็นที่นิยมมากราบไหว้ของพรเพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิต
จากนั้นนำท่านชม บ้านขุนพิทักษ์รายาสร้างขึ้นมาประมาณปี พ.ศ. 2460 อายุกว่า 100 ปี บ้านขุนพิทักษ์รายาเป็นเรือนแถว 2 ชั้น 2 คูหา 2 ช่วงเสา รูปแบบของตึกแถวมีการประยุกต์ระหว่างสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นและสถาปัตยกรรมจีน ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและเป็นภาพสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของย่านนี้อีกทั้งยังมีการบันทึกกล่าวถึงตำแหน่งของบ้านขุนพิทักษ์รายาในสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสปัตตานี และมีภาพบ้านขุนพิทักษ์รายาปรากฏอยู่ในภาพถ่ายในช่วงปี พ.ศ.2484 ที่มีเหตุการณ์ยกพลขึ้นบกของกองทัพญี่ปุ่น
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
บ่าย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง อำเภอเบตง ระหว่างทางนำท่านจอดแวะถ่ายรูปบริเวณ สะพานข้ามเขื่อนบางลางบริเวณบ้านคอกช้าง อ.ธารโต สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อล่นระยะทางในการเดินทาง จากเดิมที่จะต้องไปตามไหล่เขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา–เบตง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะพักถ่ายรูปและยืดเส้นยืดสายก่อนจะเดินทางต่อ อำเภอเบตง ตั้งอยู่ใต้สุดฝั่งตะวันตกของประเทศไทย มีเขตแดนติดกับประเทศมาเลเซีย โอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาสันการาคีรี ภูมิประเทศของอำเภอเบตง ด้วยภูมิประเทศแบบนี้จึงทำให้เบตงมีอากาศที่ดี อากาศเย็น และมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี ดังคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” คำว่า เบตง มาจากภาษามลายู "Buluh Betong" หมายถึง "ไม้ไผ่ขนาดใหญ่" หรือที่คนในพื้นที่จะรียกไผ่ชนิดนี้ว่า ไผ่ตง ดังนั้นต้นไผ่ตงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอำเภอเบตง จากนั้นนำท่านแวะจุดเช็คอินสุดฮิต ให้ท่านอิสระถ่ายรูป ป้ายโอเคเบตง
จากนั้นนำคณะเดินชมจุดเด่นที่ได้รับความนิยมของตัวเมืองเบตงได้แก่ สตรีทอาร์ท หรือ ถนนศิลปะงานศิลปะที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตงได้อย่างดี จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานที่งดงามดังกล่าว เกิดจากทาง อ.เบตง จ.ยะลา ได้มีการจัดงาน 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหมุดหมายที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวเบตงและ สร้างจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วงเวียนหอนาฬิกาเบตง และ ตู้ไปรษณีย์โบราณในส่วนของตัวหอนาฬิกาสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนขาวที่มีอยู่มากในจังหวัดยะลา หอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหรือจะเรียกว่าเป็นสะดือของเมืองเบตงก็ว่าได้ ในเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น มักจะใช้บริเวณหอนาฬิกานี้เป็นจุดนัดหมายในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และใกล้ๆ กันนั้นที่อยู่คู่เมืองเบตงมาช้านาน คือ ตู้ไปรษณีย์โบราณสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 สูง 2.9 เมตร โดยผู้ที่ดำริแนวคิดคือ นายสงวน จิรจินดา อดีตนายไปรษณีย์โทรเลขเบตง ที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเบตง คนแรก ในปัจจุบันนี้ตู้ไปรษณีย์แห่งนี้ยังเปิดใช้งานได้ และนักท่องเที่ยวมักจะซื้อโปสการ์ด เขียนและส่งจดหมายถึงญาติคนรัก หรือส่งถึงตัวเอง เก็บไว้เป็นความทรงจำ
จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เจาะผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมต่อส่วนขยายของเมืองไปอีกฟากของตัวเมือง อุโมงค์แห่งนี้ยังเป็นอุโมงค์ที่ผู้คนสามารถใช้สัญจรไปมาด้วยรถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย ภายในอุโมงค์ตกแต่งประดับประดาด้วยไฟหลากสี เปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2544
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก Holiday Hill Hotel หรือระดับเทียบเท่า 3 ดาว
วันที่สอง วัดพุทธาธิวาส-วัดกวนอิม-ป้ายใต้สุดสยาม-สนามบินเบตง-ร้านของฝากเมืองเบตง-ร้านวุ้นดำ ต้นตำรับ (เฉาก๊วย ก.ม. 4)–สวนหมื่นบุปผา-อุโมงค์ปิยะมิตร-บ่อน้ำพุร้อน-ศาลาประชาคมเบตง
เช้า คณะพบกัน ณ บริเวณล้อบบี้โรงแรม จากนั้นไป รับประทานอาหารเช้า แบบ ติ่มซำร้านใกล้เคียงโรงแรม ติ่มซำชื่อดังของเบตง ทานคู่กับน้ำชากาแฟยามเช้า
จากนั้นเดินทางไปยัง วัดพุทธาธิวาสวัดคู่เมืองเบตง เดิมชื่อวัดเบตง ก่อตั้งเมื่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2460 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นทั้งหมด 5 ชั้น ตั้งเด่นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นนำท่านสู่ วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือวัดกวนอิมตั้งอยู่บริเวณเนินเขาของสวนสุดสยาม วัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพสำคัญๆหลายองค์ อาทิ เจ้าแม่กวนอิม ท่านแป๊ะกง ท่านกวงกง เจ้าแม่จิวหวังเหย่ ยี่หวังต้าตี้ หวาโถ่วเซียนซื่อ ขงจื้อ เป็นต้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซียเลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาสักการะขอพรเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะขอพรด้านการมีบุตรและโชคลาภจากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังบริเวณพรมแดน ไทย – มาเล ฯ จุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ ถ่ายรูปกับ ป้ายใต้สุดสยาม ถือเป็นจุดเช็คอินไฮไลท์อีกหนึ่งจุดว่าท่านได้มาเยือนถึงแนวเขตแดนใต้สุดของประเทศไทย
จากนั้นนำท่านแวะชมและถ่ายรูปด้านนอกอาคาร สนามบินเบตงชมสถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งคำว่า "เบตง" หรือ “บือตง” เป็นภาษาถิ่นมลายู แปลว่า "ไม้ไผ่" กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอเบตง
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ร้านของฝากของที่ระลึกเบตงให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากท้องถิ่น เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน สินค้า OTOP ,รังนก, ยาจีน, หมี่เหลืองเบตง, ซีอิ้วเบตง, ส้มโชกุน, เสื้อยืดสกรีน OK BETONG เป็นต้น จากนั้นนำท่านสู่ ร้านวุ้นดำ กม.4ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน พิเศษ…เสิร์ฟเฉาก๊วยท่านละ 1 ถ้วยเฉาก๊วยใช้วิธีทำแบบดั้งเดิม ต้มเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยด้วยเตาฟืนซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมและมากไปด้วยสรรพคุณทางยา ให้ท่านได้อิสระซื้อเป็นของฝาก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านชม สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนดอกไม้เมืองหนาว ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปิยะมิตร 2 สวนดอกไม้นี้อยู่ท่ามกลางภูเขา สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด สวนนี้เกิดขึ้นจากโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานนามสวนแห่งนี้ว่า ว่านฮัวหยวน หรือ แปลเป็นไทยว่า สวนหมื่นบุปผา โดยมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้พัฒนาชาติไทยในอดีต ในชุมชนและหมู่บ้านบริเวณนี้ อดีตล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิก พคม. ที่ประกาศตัววางอาวุธ ในปี 2532 เป็นผู้พัฒนาชาติไทย และเลือกที่จะพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไป
จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์ปิยะมิตรตั้งอยู่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ในอดีตเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) ว่ากันว่าฐานที่มั่นแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นในแนวหลังของสงครามระหว่าง พคม กับ รัฐบาลมาเลเซีย ที่แข็งแกร่งที่สุด เคยถูกทิ้งระเบิดถึง 2 ครั้ง เป็นอุโมงค์ที่ขุดลึกลงไปในชั้นดิน จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 6 เมตร ใช้กำลังคน 60 – 80 คน อุโมงค์มีความกว้าง 50 – 60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และมีทางเข้าออกถึง 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด กระจายอยู่รอบ ๆ ภูเขา ภายในอุโมงค์นั้น สามารถจุคนได้มากถึง 400 คน ภายในอุโมงค์มีโรงพยาบาลสนาม ห้องส่งสัญญาณวิทยุระยะไกล ห้องปฏิบัติงานวางแผน ในส่วนของพื้นผิวด้านบนของอุโมงค์มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาทึบ ยากต่อการที่ฝ่ายตรงข้ามจะตรวจหาเจอ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับ แวะพักผ่อนที่ บ่อน้ำพุร้อนเบตงบ่อน้ำพุร้อนเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนตามธรรมชาติขนาดใหญ่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของบริเวณจุดตาน้ำนั้นอยู่ที่ 60 – 80 องศาเซลเซียส และนักท่องเที่ยวมักจะทำกิจกรรมครอบครัว คือ นำไข่ไก่ ไข่นกกระทา มาลวก โดยใช้เวลาเพียง 7 นาทีเท่านั้น ไข่ก็สุกพร้อมรับประทาน บริเวณโดยรอบมีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับกักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี แต่ละโซนของพื้นที่ออกแบบได้อย่างมาตรฐาน ถูกสุขลักษณะและสระธาราบำบัด นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองเบตง
จากนั้นนำท่านแวะชมและถ่ายรูปด้านนอก ศาลาประชาคมชมหอนาฬิกาโบราณและตู้ไปรษณีย์ยักษ์ที่ได้จำลองแบบมาจากของเดิมที่อยู่ในตัวเมืองเบตง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก Holiday Hill Hotel หรือระดับเทียบเท่า 3 ดาว
วันที่สาม ขึ้นสกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง–สะพานแขวนแตปูซู-ล่องเรือทะเลสาบฮาลาบาลา-เกาะทวด–วัดช้างให้-หาดใหญ่-ตลาดกิมหยง
04.00 น. นำท่านออกเดินทางไปชม ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ใน ตำบลอัยเยอร์เวง ห่างจากตัวเมืองเบตง 30 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ขึ้น ควบคู่ไปกับการชมทะเลหมอกอันสวยงาม จุดเด่น คือ ไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหน หรือช่วงเวลาไหน ท่านก็มีโอกาสที่จะได้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าที่เป็นทะเลหมอกตลอดทั้งปี
**ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ ทะเลหมอกที่ก่อตัวจากผืนป่า ฮาลา–บาลา ทะเลสาบเขื่อนบางลาง รวมถึงสามารถมองไปไกลได้ถึงประเทศมาเลเซียเลยทีเดียว นำท่านขึ้นจุดชมวิว Skywalk ชมวิวทิวทัศน์แบบรอบทิศทางแบบ 360 องศา ( การเที่ยวชมทะเลหมอก อาจมีการสลับสับเปลี่ยนได้)**มีบริการวินมอเตอร์ไซด์ขึ้นจุดชมวิว เที่ยวละ 20 บาท**
เช้า บริการอาหารเช้า
สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางต่อไปยัง สะพานแขวนแตปูซูแวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ สะพานแขวนแห่งนี้ใช้งานมาหลายสิบปี วัตถุประสงค์หลักที่สร้างขึ้นนั้น ในอดีตชาวบ้านใช้ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้ ยางพารา และใช้สัญจรของชาวสวนในพื้นที่ ตัวสะพานมีความกว้าง 1.8 เมตร ยาว 100 เมตรจากนั้นนำท่านสู่ ท่าเรือตาพะเยา นำท่านล่องเรือชมบรรยากาศทะเลสาบฮาลาบาลา และชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมทะเลสาบ
นำท่านแวะชม เกาะทวด เกาะทวด ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลาบาลา หรือ กลางเขื่อนบางลาง จ.ยะลา โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนใหญ่ จะเดินทางเพื่อมากราบไหว้ ขอพรจากทวดบูเกี๊ยะ และได้โชคลาภจากการขอพร หลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน จนนักท่องเที่ยวบางราย ได้สนับสนุน บริจาคทรัพย์ เงินทอง ในการบูรณะจัดสร้างศาลทวดบูเกี๊ยะ ให้มีสภาพที่ดีขึ้น จนกลายเป็นกระแสบอกต่อกัน และทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหล เดินทางเข้ามาเที่ยวชมและขอพรกันแทบทุกวัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หาดใหญ่ พักผ่อนบนรถ (ระยะทาง 259 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 4.30 ชั่วโมง โดยประมาณ ) จากนั้นนำท่านชม วัดช้างให้ หรือ วัดราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้ แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ อิสระให้ท่านไหว้พระขอพร หรือเช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดตามอัธยาศัย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังอำเภอหาดใหญ่จากนั้นนำท่าน อิสระช้อปปิ้งที่ ตลาดกิมหยงให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากอาทิเช่น อาหารแห้ง กาแฟ ขนมขบเคี้ยว ถั่วต่างๆ เครื่องสำอาง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าส่วนใหญ่เป็นสินค้าปลอดภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านวางขายอยู่ทั่วไป ในราคาย่อมเยาว์ อิสระอาหารค่ำให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ที่พัก Red Planet Hotel หรือระดับเทียบเท่า 3 ดาว
วันที่สี่ หาดใหญ่-สนามบินดอนเมือง, กรุงเทพฯ
เช้า บริการอาหารเช้าแบบ Set Boxนำท่านเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่
09.00 น. ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ สนามบินดอนเมือง โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia) เที่ยวบินที่ FD8002 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที **ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
10.30 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
#Chic Journey Southern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ
อัตราค่าบริการและวันเดินทาง
เบตง สุดฟิน ยิ่งกว่าโอเค 4วัน 3คืน-FD |
||
กำหนดการเดินทาง |
ราคาผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 – 3 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ |
6-9 เมษายน 2564 |
7,990.- |
2,000.- |
7-10 เมษายน 2564 |
7,990.- |
2,000.- |
9-12 เมษายน 2564 |
8,990.- |
2,000.- |
10-13 เมษายน 2564 *วันหยุดสงกรานต์* |
8,990.- |
2,000.- |
12-15 เมษายน 2564 *วันหยุดสงกรานต์* |
9,990.- |
2,500.- |
13-16 เมษายน 2564 *วันหยุดสงกรานต์* |
9,990.- |
2,500.- |
15-18 เมษายน 2564 |
8,990.- |
2,000.- |
16-19 เมษายน 2564 |
7,990.- |
2,000.- |