เที่ยวเหนือ ท้าหนาว เชียงใหม่ เชียงราย ชมทะเลหมอกภูชี้ฟ้า 4วัน 3คืน บิน VZ ธ.ค.63 - ก.พ.64 เที่ยวไทย วัดร่องขุ่น สิงห์ปาร์ค ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน ดอยตุง ไร่ชาฉุยฟง ดอยอ่างขาง ดอยม่อนแจ่ม ดอยอินทนนท์

รหัสสินค้า : CHIC-I002-THA77-CNX-CEI4D-VZ

ไม่พบสินค้า

ราคา

9,888.00 บาท

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวไทย ชมทะเลหมอกภูชี้ฟ้า ชี้ฟ้า ชี้ดาว ชี้เดือน เชียงใหม่ เชียงราย 4วัน3คืน

โดยสายการบิน : Viet Jet Air ( VZ )

เดินทาง : ธันวาคม 2563 - กุมภาพันธ์ 2564

รายละเอียด : เชียงราย วัดห้วยปลากั้ง วัดร่องเสือเต้น วัดร่องขุ่น สิงห์ปาร์ค (นั่งรถรางชมฟาร์ม) เรียวกังคาเฟ่ ภูชี้ฟ้า ขึ้นยอดภูชี้ฟ้าชมทะเลหมอก ภูชี้ดาว , ภูชี้เดือน ,ดอยตุง ไร่ชาฉุยฟง อ.ท่าตอน วัดท่าตอน อ.ไชยปราการ ฮิโนกิแลนด์ ฝาง ดอยอ่างขาง สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง สวนดอกไม้เมืองหนาว สวน 80 ไร่ชา2000 (ชมซากุระ) ไร่สตรอเบอร์รี่บ้านนอแล ดอยม่อนแจ่ม พระธาตุดอยคำ จอมทอง ดอยอินทนนท์ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ถ่ายรูปป้ายจุดสูงสุดแดนสยาม ตลาดม้ง น้ำตกวชิรธาร บ้านถวาย ร้านของฝาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  

**พักภูชี้ฟ้า 1 คืน , ฝาง 1 คืน , เมืองเชียงใหม่ 1 คืน

ราคาเริ่มต้น 9,888 บาท

หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง ,เที่ยวบินและเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

             
                 

เที่ยวในประเทศ : เที่ยวไทย...เที่ยวเหนือท้าหนาว…สัมผัสไอหมอก…Winter Lover 
ทัวร์เชียงใหม่ เชียงราย 4วัน 3คืน
**พักภูชี้ฟ้า 1 คืน,ฝาง 1 คืน,เมืองเชียงใหม่ 1 คืน
**สายการบิน Thai Viet Jet Air(VZ)  ราคาเริ่ม 9,888 บาท
เดินทาง ธันวาคม 2563 - กุมภาพันธ์ 2564
เที่ยว : วัดร่องขุ่น ,นั่งรถรางสิงห์ปาร์ค ,ชมทะเลหมอกภูชี้ฟ้า ,ภูชี้ดาว ,ภูชี้เดือน ,ดอยตุง ,ฮิโนกิแลนด์ ,อ่างขาง .ม่อนแจ่ม

วันแรก  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย - วัดห้วยปลากั้ง-วัดร่องเสือเต้น - วัดร่องขุ่น - สิงห์ปาร์ค (นั่งรถรางชมฟาร์ม) - เรียวกังคาเฟ่ - ภูชี้ฟ้า ( อาหาร : เช้า,เที่ยง,เย็น )

04.00 น.   พร้อมกันที่จุดนัดหมาย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยเวียตเจ็ท (Thai Viet Jet Air) ประตู 3-4 เคาน์เตอร์ Eเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
06.30 น.  ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จังหวัดเชียงราย โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ130
07.30 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงรายรับสัมภาระเรียบร้อย
**ไกด์ถือป้ายต้อนรับรอทุกท่านบริเวณทางออกนำท่านขึ้นรถตู้ปรับอากาศ
รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 1)
เดินทางสู่ วัดห้วยปลากั้งมีความสวยงามไม่แพ้วัดอื่นๆในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนเขาและรายล้อมด้วยเนินเขาและวิวที่งดงาม จุดเด่นของวัดนี้คือ "พบโชคธรรมเจดีย์" เจดีย์สูง 9 ชั้น ทรงแหลมศิลปะจีนผสมล้านนาสง่างามด้วยทันได้ที่มีมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันได ล้อมรอบด้วยเจดีย์จำลองขนาด 12 ราศี ภายในเจดีย์ ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ต่างๆ รวมถึงเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันหอมองค์ใหญ่ แต่เดิมเคยเป็นวัดร้างที่มีมาแต่โบราณ ถูกบูรณะโดย พระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส จนฝื้นกลับมาเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงรายอีกครั้ง และมีความเชื่อกันว่าหากใครมาเยือนจะรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์
นำท่านสู่ วัดร่องเสือเต้น ชมพระวิหารหลังใหม่ ที่มีศิลปะที่มีความสวยงดงามแปลกตา เป็นศิลปะประยุกต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้เฉดสีเป็นสีน้ำเงินฟ้า รูปแบบของศิลปะส่วนหนึ่งมีความคล้ายกับผลงานของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ อ.ถวัลย์ ดัชนีย์ สองศิลปินแห่งชาติชื่อดังชาวเชียงรายที่รังสรรค์ผลงานอยู่ที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย และพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย รวมอยู่ด้วย ผลงานดังกล่าวเป็นฝีมือการรังสรรค์ของ นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ปี พ.ศ.2554 จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สุดคือ วิหารร่องเสือเต้น ตัววิหารได้ถูกสร้างด้วยศิลปะแนวศาสนาศิลป์ร่วมสมัย แฝงไว้ด้วยคติธรรมของพระพุทธองค์ นอกจากตัววิหารแล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐาน "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" ซึ่งมีความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปรินายก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
นำท่านเดินทางสู่ วัดร่องขุ่น ได้รับการบูรณะโดยอาจารย์เฉลิม ชัยโฆษิตพิพัฒน์ เมื่อพ.ศ.2540 โดยจิตรกรชาวเชียงราย ผู้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) จากวัดเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ในสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรมนี้ได้กลายเป็นศาสนสถานที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะเต็มไปด้วยลวดลายอ่อนช้อยประณีตดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมวัดนี้อย่างคับคั่งตลอดปี อุโบสถของวัดร่องขุ่นมีสีขาวบริสุทธิ์สะอาดซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์เป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งพากันเรียกวัดร่องขุ่นว่าวัดขาว (Thailand White Temple) ประดับประดาด้วยช่อฟ้าใบระกาอย่างวิจิตรอลังการตามด้วยลวดลายอ่อนช้อยอื่น ๆ อีกมากมายเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันลงมาหน้าบันประดับด้วยพญานาคและติดกระจกระยิบระยับโดยความตั้งใจของผู้สร้างนั้นต้องการสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยเฉพาะภาพพระพุทธองค์หลังพระประธานซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่งดงาม
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 2)
เดินทางสู่ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงาม โดยจัดเป็นรูปแบบฟาร์มทัวร์ ภายในไร่มีการปลูกพืชหลายชนิดตามความเหมาะสมกับสภาพดิน อาทิ ไร่ชาอู่หลง รวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน แปลงดอกไม้ประดับปลูกเปลี่ยนหมุนเวียนทั้งปี เนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้และกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม มีบริการรถราง (shutter bus) ซึ่งทางไร่ได้จัดเตรียมไว้โดยรถจะออกทุก 15 นาที (ค่าทัวร์รวมค่ารถรางแล้ว) มีจุดแวะทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ จุดชมทุ่งดอกคอสมอส, จุดให้อาหารยีราฟและม้าลาย (ค่าบริการผู้ใหญ่ 100 บาท/เด็กความสูงไม่เกิน 110 ซม. 50 บาท),จุดศูนย์กีฬาและสันทนาการ หรือบ้านแดง จุดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานและเล่นกิจกรรม zipline ได้,จุดชมวิวไร่ชา 360 และร้านอาหารภูภิรมย์ จุดนี้สามารถมองเห็นบรรยากาศของไร่ชาที่กว้างใหญ่ตลอดทาง นอกจากนี้ ภายในยังมีร้านขายของที่ระลึก  ของฝาก และมีบริเวณที่นั่งพักผ่อนหรือถ่ายรูปในหลายจุด อิสระถ่ายรูปบรรยากาศตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ เรียวกังคาเฟ่ (Ryokan Cafe)เป็นคาเฟ่ชิคๆสไตล์ญี่ปุ่นในเชียงราย มีความเป็นญี่ปุ่นสูงมาก ด้วยความที่เจ้าของร้านเคยไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น และชื่นชอบวัฒนธรรม การ์ตูน เลยมาเปิดเป็นคาเฟ่ และที่พักคล้ายกับชนบทของญี่ปุ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางขึ้นสู่ ภูชี้ฟ้า
เย็น   รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 3)
ที่พัก: บ้านระเบียงฟ้ารีสอร์ท,ภูฟ้าสวรรค์,ภูหมอกแคมป์ หรืออื่นๆระดับเทียบเท่ากัน
**หมายเหตุ: (พักที่ภูชี้ฟ้าพักห้องละ 4 ท่าน หรืออาจจะ 2 ท่าน อาจเป็นเตียงคู่ TWN หรือเตียงใหญ่ DBLและห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นเตียงใหญ่ Double Bed เกือบทั้งหมด หรืออาจเป็นที่พักแบบเต็นท์กระโจม หรือ โดม )
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สอง  ขึ้นยอดภูชี้ฟ้าชมทะเลหมอก – ภูชี้ดาว – ภูชี้เดือน - ดอยตุง – ไร่ชาฉุยฟง - อ.ท่าตอน-วัดท่าตอน - อ.ไชยปราการ – ฮิโนกิแลนด์ – ฝาง ( อาหาร :เช้า,เที่ยง,เย็น )

05.00 น.   นำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวทะเลหมอกภูชี้ฟ้า (เปลี่ยนยานพาหนะเป็นรถท้องถิ่น) ชมทะเลหมอกสุด อลังการคลอภูเขาที่สวยงาม ชมเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือลักษณะภูเขาที่ชี้ไปบนฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย-ลาว อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลมเป็นแนว ยาว ที่ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า "ภูชี้ฟ้า" นั่นเอง  จากนั้นเดินทางสู่ ภูชี้ดาว  มีความสูงประมาณ 1,800 เมตร ซึ่งสูงกว่าทั้งภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้ง ชมวิวทะเลหมอกที่คลอเคลียตามเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนในยามเช้า เดินทางสู่ภูชี้เดือน ทางไม่ชันเหมือนภูชี้ดาว บริเวณยอดภูมี มองไปทิศเหนือจะเห็นดอยผาหม่น สูงแหลมโดดเด่น ถ้ามองอีกฝั่งจะเห็นภูชี้ดาว และภูชี้ฟ้า อยู่ไม่ไกลมี ให้ท่านชมวิวทะเลหมอก ชมวิวทิวเขาสวยงามตา และจะสวยที่สุดในช่วงหน้าหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงกุมภาพันธ์
รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 4)
นำท่านเดินทางสู่ ดอยตุงชม สวนแม่ฟ้าหลวงหรือ สวนดอยตุง เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวบนพื้นที่ 25 ไร่ อยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนักดอยตุง ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของหมู่บ้านอาข่าป่ากล้วย 62 ครอบครัว ในอดีตหมู่บ้านนี้เป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญและเป็นที่พักของกองคาราวาน ที่ลำเลียงฝิ่น น้ำยาทำเฮโรอีน และอาวุธสงคราม ประกอบกับที่ตั้งมีลักษณะเป็นหุบลึกลงไป บ้านเรือนอยู่อย่างอัดแอ ไม่สามารถขยายและดูแลเรื่องความสะอาด ขยะ และน้ำเสียได้ ทางโครงการพัฒนาดอยตุงฯ จึงขอให้หมู่บ้านย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ห่างจากที่เดิมราว 500เมตร แต่ตั้งอยู่บนเนินเขา กว้างขวาง และสวยงาม เป็นที่พอใจของชาวบ้าน สำหรับสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวสร้าง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 ตามพระราชดำริของสมเด็จย่า เพื่อให้คนไทยที่ไม่มีโอกาสไปต่างประเทศได้เห็นไม้ดอกเมืองหนาวที่สวนแห่งนี้ ซึ่งได้รับการดูแลให้สวยงามตลอดทุกวันทั้งปี โดยดอกไม้จะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูกาล ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี กลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัวของ มิเซียม ยิบอินซอย โดย สมเด็จย่า พระราชทานชื่อว่าความต่อเนื่อง (continuity) สื่อถึงการทำงานจะสำเร็จได้ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง นอกจากแปลงไม้ประดับกลางแจ้งแล้วยังมีโรงเรือนไม้ในร่มด้วย จุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่าง ๆ ที่ออกดอกสวยงาม
นำท่านเดินทางสู่ ไร่ชาฉุยฟงเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดีของ บริษัท ฉุยฟงที จำกัด ผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงรายมากว่า 40 ปี ให้ท่านได้ถ่ายรูปวิวไร่ชาสวยๆท่ามกลางภูเขา และท้องฟ้าสีครามที่สวยงาม นอกจากนี้ที่นี่ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้อร่อยกับเค้ก พร้อมนั่งจิบชา หรือกาแฟชมวิวในบรรยากาศดีๆสวยงาม
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 5)
นำท่านเดินทางสู่ อ.ท่าตอน ชม วัดท่าตอน (อุทยานพระพุทธศาสนา) เดิมเป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานได้จาก วัตถุโบราณที่ค้นพบในบริเวณนี้ วัดท่าตอนยังเป็นสถาบันการศึกษาสำหรับพระภิกษุ สามเณร และเยาวชน เป็นศูนย์บำบัดยาเสพติด และสงเคราะห์ชาวเขา เป็นวัดที่มีทิวทัศน์งดงาม และเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ทางวัดได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างเจดีย์แก้วเฉลิมพระเกียรติไว้บนยอดเขา ด้านบนมีจุดชมวิวซึ่งจะมองเห็นชุมชน ทุ่งนา และแม่น้ำกกไหลคดเคี้ยวอยู่เบื้องล่าง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อำเภอไชยปราการอยู่บนเส้นทางสายเชียงใหม่-ฝาง สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน สลับ ที่ราบเชิงเขา เป็นอำเภอที่มีภูเขาล้อมรอบถึง 3 ด้าน นำท่านสู่สถานที่เช็คอินสุดเก๋ ฮิโนกิแลนด์Hinoki landอาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่จำลองบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นไว้กลางหุบเขาในเชียงใหม่ เป็นรูปธรรมในภาพฝันของ คุณอนิรุทธ์ จึงสุดประเสริฐ ผู้ก่อตั้งบ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการ และเป็นผู้นำเข้าไม้สนฮิโนกิในประเทศไทยอย่างเป็นทางการรายแรกๆ ของประเทศไทย ซึ่งหลังจากบ้านไม้หอมฮิโนกิ และธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากไม้สนฮิโนกิที่เขาริเริ่มร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ประสบผลสำเร็จ โปรเจ็กต์ถัดมาก็คือการพัฒนาพื้นที่ 83 ไร่ ฮิโนกิแลนด์ ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้าง 6 หลัง เริ่มต้นจากอาคารซุ้มประตูทางเข้าที่จำลองประตูอสุนีของศาลเจ้าอาซากุสะ โดดเด่นด้วยโคมสีแดง เขียนด้วยตัวอักษรสีดำว่า คามินาริ (Kaminari-mon) ซึ่งเป็นชื่อของประตูตามต้นแบบ ถัดมาคือโถงต้อนรับที่ให้บริการเช่าชุดกิโมโน มีให้เลือกหลากสี หลายรูปแบบ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากใส่ถ่ายรูปให้สอดคล้องกับบรรยากาศ ถัดมาจะพบกับอีกหนึ่งไฮไลต์คืออุโมงค์เสาโทริอิจำลองจำนวน 88 ต้น เชื่อมพื้นที่ส่วนหน้าเข้าสู่ด้านในของโครงการ ซึ่งอุโมงค์จะพาไปบรรจบกับลานด้านหน้าปราสาทฮิโนกิ ปราสาทที่สร้างขึ้นจากไม้สนฮิโนกิทั้งหลังตามแบบปราสาทดั้งเดิมของโชกุน โดยปราสาทแห่งนี้ได้จำลองมาจากปราสาททองคินคาคุจิในเมืองเกียวโตด้วยสัดส่วน 1 ต่อ 3 ชั้นบนของปราสาทจะเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม (แกะสลักจากไม้สนฮิโนกิด้วยเช่นกัน) ปราสาทมี 4 ชั้น แต่ละชั้นมีระเบียงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาที่วางตัวล้อมรอบอำเภอไชยปราการอย่างสวยงาม ด้านข้างของปราสาทยังเป็นบ่อปลาคาร์ปขนาด 8 ไร่ และมีอาคารจัดแสดงสินค้า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้วย คุณอนิรุทธ์ริเริ่มโครงการพร้อมกับการเปิดกิจการบ้านไม้หอมฯ โดยชักชวนชาวบ้านจากอำเภอไชยปราการ ฝาง พร้าว และแม่อาย กว่า 1,200 ครอบครัว ร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ต่อยอดจากการสกัดน้ำมันหอมในเนื้อไม้สนฮิโนกิ เช่น ที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพ สบู่ แชมพู และเครื่องสำอาง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์แบบญี่ปุ่นที่ผลิตจากไม้ชนิดเดียวกันนี้ และยังมีคาเฟ่ให้บริการเครื่องดื่มและขนมจำหน่ายภายในโถงอาคารย้อนยุค นอกจากนี้ยังมีอาคารเจแปนทาวน์ จำหน่ายสินค้าที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น มีภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับ เสิร์ฟโดยพ่อครัวจากแดนอาทิตย์อุทัย อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศอันงดงามแบบญี่ปุ่นตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่อำเภอฝาง
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 6)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรมอำเภอฝาง
ที่พัก: โรงแรมต้นฝาง/อำเภอฝางระดับ 3ดาว หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สาม  ดอยอ่างขาง - สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง สวนดอกไม้เมืองหนาว สวน 80 - ไร่ชา2000  (ชมซากุระ)- ไร่สตรอเบอร์รี่บ้านนอแล– ดอยม่อนแจ่ม – เมืองเชียงใหม่ (อาหาร : เช้า,เที่ยง,เย็น )

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม  (มื้อที่ 7)
นำท่านเดินทางสู่ ดอยอ่างขางตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร เป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง  
นำท่านเที่ยวชมสถานีเกษตรหลวงอ่างขางหรือเรียกว่า โครงการหลวงดอยอ่างขางภายใน มีแปลงปลูกพืชเมืองหนาว มีทั้งไม้ดอกและไม้ผล และพืช ผัก ชนิดต่างๆ ผลไม้ที่ขึ้นชื่อที่สุดจะเป็นสตอเบอร์รี่พันธุ์ 80 ที่มีรสชาติดี รสหวาน สวน 80เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวเป็นแหล่งรวบรวมไม้ดอกเมืองหนาวปลูกลงบนแปลงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม และยังมีต้นซากุระจากญี่ปุ่นให้ชื่นชมอีกด้วยซึ่งซึ่งออกดอกสวยงาม ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ส่วนไม้ดอกเมืองหนาวที่ปลูกลงบนแปลงชนิดอื่นมีการปลูกสับเปลี่ยนกันตลอด เพื่อให้มีดอกสวยงามตลอดทั้งปี แปลงไม้ผล เป็นไม้ผลเขตหนาวที่ปลูกในสถานีฯ อ่างขาง ได้แก่ สตรอเบอร์รี่ กีวี่ บ๊วย พีช พลัม บลูเบอร์รี่ สาลี่ พลับ ซึ่งในการปลูกไม้ผลในพื้นที่ต่างๆ ของโครงการหลวง และเป็นที่ถ่ายละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง อิสระให้ท่านชมความงดงามของพันธ์ไม้ดอกไม้ประดับ  และไม้ผลเมืองหนาวนานาพันธุ์ เช่นโรงเรือนกุหลาบ ป่าซากุระ ต้นบ๊วย สวนบอนไซนานาชนิดและให้ท่านเลือกซื้อของฝากผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวง  ช่วงฤดูหนาวของทุกปี (ปลายธ.ค.-ม.ค.) จะมีต้นซากุระออกดอกที่สวยงาม มีดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยเบ่งบานริมทางขึ้นดอยอ่างขางสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง นอกจากนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยแล้วก็ยังมี “ซากุระญี่ปุ่น” ที่ทางมูลนิธิโครงการหลวง ได้เข้ามาปลูกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และ ต้น “เชอร์รีไต้หวัน” ซึ่งเริ่มปลูกเมื่อปี 2551 ปัจจุบันภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางปลูกต้นซากุระญี่ปุ่นและเชอร์รีไต้หวันจำนวนกว่า 5,000 ต้น โดยใช้การเพาะเมล็ดเป็นวิธีขยายพันธุ์ ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีดอกนางพญาเสือโคร่ง ซากุระญี่ปุ่น และเชอร์รีไต้หวันจะออกดอกให้ได้ชมตามจุดต่าง ๆ เช่น ภายในสวน 80 ด้านหน้าอาคารสโมสรอ่างขาง สวนแปดสิบ สวนกุหลาบอังกฤษ สวนสมเด็จ และตลอดเส้นทางเดินรถขาออกฝั่งโรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผักสถานีฯ อ่างขาง นอกจากนี้บริเวณริมถนนทางขึ้นไปสู่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางก็ยังมีต้นนางพญาเสือโคร่งสูงใหญ่ที่ออกดอกสีชมพูหวานริมถนนสองข้างทางเป็นดังอุโมงค์ดอกนางพญาเสือโคร่งอันสวยงาม รวมถึงตามไหล่เขาซอยข้างตลาดขายของหน้าสถานีเกษตรฯ อ่างขางก็มีต้นนางพญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพูสวยงาม จากนั้นนำชม ไร่ชา 2000 ดอยอ่างขางซึ่งตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงบ้านนอแล ให้ท่านเช็คอินถ่ายรูปกับจุดชมวิวสวยๆตามอัธยาศัย หลักๆจะมี2จุดคือ ด้านบนตรงบริเวณกังหันลมแคนนอน และ ตรงแปลงชาด้านล่าง นอกจากนี้มีร้านชาบริการให้นักท่องเที่ยวดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ จากนั้นเดินทางสู่ ไร่สตรอเบอร์รี่บ้านนอแลต้นสตรอเบอร์รี่ถูกปลูกลดหลั่นตามความลาดเทของภูเขาให้วิวที่สวยงาม มีวิวสวยงามมากเหมาะแก่การถ่ายรูป สามารถเข้าชมแปลงปลูกได้แต่ไม่สามารถเก็บสตรอเบอร์รี่เองได้ สามารถเลือกซื้อแบบสดๆจากหน้าสวนที่ชาวบ้านเก็บมาขายได้
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 8)
นำท่านเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่ดอยม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ไปสัมผัสบรรยากาศอันสดชื่น สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขา ทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลบนดอย จุดชมวิวหลักๆของดอยม่อนแจ่ม มีอยู่สองด้าน ด้านหนึ่งเป็นทิวเขาสลับกันวิวสวยสุดลูกหูลูกตา อีกด้านเป็นไร่ปลูกพืชต่างๆของโครงการหลวง ซึ่งจะเปลี่ยนพืชพรรณที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 9)
หลังรับประทานอาหารเย็น นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรมเมืองเชียงใหม่
ที่พัก:The Hive Hotel / Peppery Hill Hotel หรือระดับเทียบเท่ากัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สี่  พระธาตุดอยคำ – จอมทอง – ดอยอินทนนท์ – พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล-พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ – ถ่ายรูปป้ายจุดสูงสุดแดนสยาม – ตลาดม้ง -น้ำตกวชิรธาร – บ้านถวาย - ร้านของฝาก – ท่าอากาศยานเชียงใหม่ -ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ   ( อาหาร : เช้า,เที่ยง,--- )

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม  (มื้อที่ 10)
นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยคำ หลวงพ่อทันใจ ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อ.เมือง มีอายุราวกว่า 1,300 ปี เป็นวัดที่มีความสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ เดิมชื่อ วัดสุวรรณบรรพต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านการขอพร บนบาน มีองค์หลวงพ่อทันใจ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ คนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างก็มาเที่ยว ทำบุญ ขอพรให้สุขสมหวัง เมื่อได้สมหวังแล้วจะนำดอกมาลิมาแก้บน (ความเชื่อเฉพาะบุคคล) นอกจากนี้บนวัดพระธาตุดอยคำยังมีจุดชมวิวที่สวยงาม ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ได้ ยามค่ำคืนเมื่อมองขึ้นไปบนพระธาตุดอยคำจะเห็นองค์พระธาตุเหลืองอร่ามสว่างไสว ซึ่งมีความงดงามมาก นำท่านเดินทางไปพิชิตทางบันไดนาคที่มีประมาณ 306 ขั้น
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยสภาพภูมิประเทศทั่วไปประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงจาก ระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ยอดเขาที่มีระดับสูงรองลงมาคือ ดอยหัวมดหลวง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,330 เมตร ป่าอินทนนท์นี้เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำแม่กลาง แม่ป่าก่อ แม่ปอน แม่หอย แม่ยะ แม่แจ่ม แม่ขาน และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำแม่ปิงที่ ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม อิสระให้ท่านถ่ายรูปกับป้ายสูงสุดแดนสยามตามอัธยาศัย  จากนั้นชมความงดงามของ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลองค์สีน้ำตาล ประดิษฐานอยู่บนที่สูงสุดในพระราชอาณาจักรไทย เคียงคู่กับ พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 11)
เดินทางสู่ น้ำตกวชิรธาร ความงามแห่งดอยอินทนนท์ แต่เดิมชื่อว่า น้ำตกตาดฆ้องโยง ภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ตามพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร แวะเที่ยวชม ตลาดม้ง ร้านค้าชุมชนที่นำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งผักผลไม้ ทั้งของสดและของแห้ง รวมไปถึงของที่ระลึก เสื้อผ้า ต่างๆนานา มาวางขาย อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  บ้านถวาย หมู่บ้านหัตถกรรมไม้แกะสลัก ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ จุดรวมความหลากหลายของงานหัตถศิลป์ที่โดดเด่น เช่น งานแกะสลักไม้,งานเดินเส้นแต่งลาย,งานลงรัก ปิดทอง,เครื่องเงิน,เครื่องเขิน,ผ้าทอ,เครื่องจักรสาน และเครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น
จากนั้นนำท่าน แวะซื้อของฝากของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อเตรียมตัวเช็คอินเดินทางกลับ
***(อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย)***
21.10 น.  ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสายการบิน ไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบิน VZ107
22.30 น.  เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

#Chic Journey…Northern Thailand
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยืดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการและวันเดินทาง

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

ราคาเด็ก
อายุ
2-6 ปี

พักเดี่ยว/เดินทางคนเดียว เพิ่ม

ที่นั่ง

 

หมายเหตุ

9-12 ธันวาคม 63

10,888

 

 

ไม่มีราคาเด็ก

(อายุ 0-2 ปี 1,300 บาท)

 

2,000

16

 

18-21 ธันวาคม 63

9,888

2,000

16

 

25-28 ธันวาคม 63

9,888

2,000

16

 

15-18 มกราคม 64

9,888

2,000

16

 

21-24 มกราคม 64

9,888

2,000

16

 

29มกราคม-1กุมภาพันธ์ 64

9,888

2,000

16

 

11-14 กุมภาพันธ์ 64

9,888

2,000

16

 

25-28 กุมภาพันธ์ 64

9,888

2,000

16

 

Visitors: 233,899