ขอบคุณเครดิตภาพ https://www.royalcaribbeanpresscenter.com/
เรือสำราญ Symphony of the Seas เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2018
เป็นเรือที่เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นที่เดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัว รวมถึงกลุ่มเพื่อนที่จะพากันไปสนุก ผจญภัยยกก๊วน..
#เรือสำราญ Symphony of the Seasเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2018 มีน้ำหนักถึง 230,000 ตัน สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 6,870 คน มีความสูง 18ขั้น มีความยาวกว่า 1,188 ฟุต และมีความกว้างประมาณ 215.5 ฟุต
นอกจากความใหญ่โตอลังการแล้ว เรือ “ซิมโฟนี ออฟ เดอะซีส์”ยังได้ชื่อว่าเป็น Entertainment Complex อย่างแท้จริงโดยมีทั้งสวนน้ำ, ห้างสรรพสินค้า, สนามบาสเก็ตบอล, ลานสเก็ตน้ำแข็ง, หน้าผาจำลองสูง 40 ฟุต รวมไปถึงโรงละครและโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ด้วย
ส่วนบริการห้องพักบนเรือ
บนเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดในโลกลำนี้ สามารถรองรับลูกค้ามากถึง 2,759 ห้อง โดยมี 4 ประเภทหลักเริ่มจาก
-ห้องด้านใน ( Interior ) มีห้องที่สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน เป็นห้องที่ประหยัดงบสุด เป็นห้องที่อยู่ฝั่งในของตัวเรือ จึงไม่มีหน้าต่างให้เห็นวิว ด้านนอก แต่ยังมีห้องประเภทย่อย เป็นห้อง Interior Virtual Balcony ซึ่งจะมีจอทีวีพิเศษที่ฉายภาพทะเลด้านนอก เข้ามาเสมือนหนึ่งเป็นระเบียงของจริง ที่ท่านสามารถเลือกจองได้
-ห้องด้านนอก (Ocean View) มีห้องที่สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน เป็นห้องพักที่จะมีหน้าต่างมองเห็นข้างนอกลำเรือได้ เราจะสามารถเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน แต่ว่าหน้าต่างนั้นจะเปิดออกมาไม่ได้
-ห้องระเบียง ( Ocean View With Balcony ) มีห้องที่สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิดนึง และจะมีระเบียงสามารถเดินออกมาสูดลมทะเลภายนอกห้องได้
-ห้องสวีท ( Suite ) โดยแบ่งออกเป็นอีกหลายแบบและมีหลายระดับ สามารถพักได้ ตั้งแต่ 4 ถึง 8 ท่านเลยทีเดียว
พิเศษสุด!!! สำหรับลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวกับ Ultimate Family Suite : ห้องสวีท ขนาด 2 ชั้น เต็มไปด้วยความสดใสของเฟอร์นิเจอร์โทนสีส้ม โดยเฉพาะสไลเดอร์ที่ทอดตัวลงมาจากห้องนอนเด็กชั้นสอง สู่ห้องนั่งเล่นด้านล่าง ที่เด็กๆ (หรือแม้แต่ผู้ใหญ่) ชื่นชอบเป็นพิเศษ มีจอแอลอีดีขนาด 85 นิ้ว ให้นั่งดูหนังกันไปยาวๆ มีห้องนอน 2 ห้อง สามารถจุสมาชิกได้สูงสุด 8 คน ตรงระเบียงมีอ่างจากกุซซี่ขนาดใหญ่ และโต๊ะปิงปอง ให้อารมณ์ครอบครัวที่แสนอบอุ่น และมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัว เรียกว่า Royal Genie
นอกจากนี้ยังมีห้องที่สามารถนำรถเข็นเข้าไปได้ 46 ห้อง ในจำนวนห้องทั้งหมด
ส่วนบริการห้องอาหาร
บนเรือสำราญ Symphony of the Seas มีห้องอาหารเครื่องดื่ม ให้ท่านเลือกมากมายถึง 20 ร้าน
โดยในจำนวนนี้มีร้านที่ ลูกค้าสามารถรับประทานได้ฟรี 9 ร้าน ได้แก่
-Main Dinning Room , (ห้องอาหารหลัก )ห้องอาหารแบบ A La Cart นานาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 - 5 ของเรือ
-Windjammer Marketplace, ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ บนชั้น 16 ที่ขนสารพัดเมนูหลากหลายสไตล์มาให้ลิ้มลองความสดของวัตถุดิบและรสชาติ ที่ไม่แพ้ห้องอาหารใด ตั้งแต่มื้อเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ นั่งกินสบายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง
-El Loco Fresh, ตั้งอยู่บนชั้น 15 ฝั่งท้ายเรือ
-Sorrento’s,ร้านบริการ Pizza แบบจัดเต็ม
-Boardwalk Dog House, ร้านอาหารนั่งชิวๆ อยู่ด้านท้ายลำ บริเวณ ชั้น 6
-Park Café, เป็นคาเฟ่ที่บริการขนมทานเล่นและเครื่องดื่ม ชากาแฟ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 8
-Café Promenade, ตั้งอยู่โซน Royal Promenade (ถนนใจกลางเรือ) ชั้น 5 บริเวณกลางเรือ บริการเครื่องดื่มและเบเกอรี่ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
-Vitality Café , เป็นคาเฟ่ต์ที่บริการขนมทานเล่นและเครื่องดื่ม ชากาแฟ
-Solarium Bistro , เป็นคาเฟ่ต์ ที่บริการขนมทานเล่นและเครื่องดื่ม ชากาแฟ
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารพิเศษ (ห้องอาหารที่ต้องชำระเงิน ) เพื่อให้ลูกค้าได้เปลี่ยนบรรยากาศทานได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่
- Hooked Seafood , Sugar Beach , Playmakers Sports , Bar & Arcade , Wonderland ,150 Central Park ,Izmi Hibachi & Sushi , Johnny Rockets , Jamie's Italian , Coastal Kitchen ,Chops Grille
ตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมไฮไลท์
สำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรม บอกเลยว่า “ซิมโฟนี ออฟ เดอะซีส์” มีเครื่องเล่น แนว Adventure ที่น่าตื่นเต้น ท้าทายอะดรีนาลีน ตั้งแต่ระดับประถม จนถึงมหาวิทยาลัย ให้ท่านได้สนุกตื่นเต้นมากมาย เรียกได้ว่าห้ามพลาดกันเลยทีเดียว...
เรามาเริ่มทีละอย่างกันเลยจ้า
- Ultimate Abyss ท้าทายสุดขั้วกับ สไลเดอร์แห้ง บนชั้น 16 ที่ต้องเอาตัวสวมเข้าไปในถุงผ้าแล้วก็สไลด์ เกลียวสไลด์จะหมุนวนจนพาเรามาโผล่ที่ชั้น 6 บริเวณโซน Boardwalk นับรวมกันได้ 10 ชั้นพอดี เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวอีกที
- Zip Line ท้าทายความสูงโหนสลิงแหวกฟ้า บนความสูง 9 ชั้นเรือ นับเป็นสลิงที่สูงที่สุดกลางทะเลในตอนนี้ เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วงเพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
-Rock Climbing ทดสอบความแข็งแรงกับกิจกรรมไต่หน้าผา ซึ่งบนเรือซิมโฟนีฯ มีผาจำลองความสูง 220 ฟุต บริเวณท้ายเรือชั้น 6 และ 7 ไว้ต้อนรับนักไต่ ตั้งแต่ระดับเบสิกจนถึงแอดวานซ์
-FlowRider อีกหนึ่งไอคอนของรอยัลแคริบเบียน ให้ท่านได้สนุกกับโต้คลื่นจำลอง
-The Perfect Storm Waterslides ที่สุดของสไลเดอร์ที่คดเคี้ยวที่สุดเท่าที่เรือสำราญใดๆ เคยมี ความเร้าใจอยู่ตรงท่อสไลด์บางช่วงที่เป็นท่อใสยื่นออกไปเกือบนอกลำเรือ ชวนหวาดเสียว และในจังหวะที่ตัวเราหล่นลงมาบนท่อทรงกรวยขนาดใหญ่ หมุนคว้างตามแรงน้ำ ก่อนจะร่วงผลุงลงไปอีกครั้ง แล้วไปโผล่ที่สระน้ำหลักชั้น 15 รับประกันว่า ถ้าได้เล่นแล้วไม่มีทางจบที่ครั้งเดียว
-Laser Tag ครั้งแรกบนเรือสำราญที่นำเกมเลเซอร์ ยิงต่อสู้กันกลางความมืดด้วยปืนเลเซอร์เรืองแสง ในสงครามปกป้องกาแลกซี่ Battle for Planet Z! รับประกันความมัน และเล่นได้ทุกเพศวัย เปิดศึกทุกวันที่ชั้น 4 ห้อง Studio B (เช็คเวลาที่ Cruise Compass)
นอกจากกิจกรรมตื่นเต้นท้าทายเหล่านี้แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความบันเทิงจากโชว์ต่างๆ ซึ่ง เรือซิมโฟนี ออฟ เดอะซีส์
ได้ออกแบบและฝึกซ้อมโดยทีมงานเอนเตอร์เทนเมนต์ของรอยัล แคริบเบียนเอง ท่านสามารถเช็ครอบโชว์ได้จาก Cruise Compass ที่บอกกำหนดการและกิจกรรมต่างๆ บนเรือทุกวัน
เริ่มกันที่ โชว์สเก็ตน้ำแข็ง 1977 ( Ice-Skating Rink ) ที่ Studio B ตื่นตาด้วยลีลาวาดคมสเก็ต ที่ทั้งแข็งแกร่งและพลิ้วไหว ในภารกิจตามหาหัวขโมยเพชรจูบิลี ของควีนอลิซาเบธ ที่หลบหนีไปตามที่ต่างๆ ทั่วโลกในปี 1977 พร้อมด้วยองค์ประกอบแสงสี เครื่องแต่งกายที่งดงามตระการตาตลอด 45 นาที Hairspray ละครเพลงบรอดเวย์ยอดฮิตตลอดกาล ที่ได้คัดเลือกนักแสดงที่เยี่ยมยอด ทั้งร้อง เต้น และสื่ออารมณ์ จนเราอินไปกับ Tracy Turnblad หญิงสาวร่างอวบ ที่ใฝ่ฝันอยากออกทีวี เนื้อหายังแฝงไว้ด้วยการต่อต้านการเหยียดสีผิว และการข้ามกฏเกณฑ์ของความต่าง ว่าความอ้วนไม่ได้เป็นอุปสรรค (เพราะสุดท้ายเทรซี่ได้รับตำแหน่งราชินี Hairspray และคว้าหนุ่มสุดหล่อไปครอง)และที่ต้องขอชื่นชมมากๆ คือ ฉากและระบบแสง สี เสียง ที่นำเทคโนโลยีมาผสมผสานได้สุดยอดจริงๆ
-บนเรือสำราญลำนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆที่จะทำให้เราได้ โอ้ โห!! อีกหลายส่วน Rising Tide Bar พื้นที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมความบันเทิง ร้านค้า ผับ บาร์ เครื่องดื่มที่หลากหลาย ที่เก๋สุดคือ Bionic Bar บาร์หุ่นยนต์ ซึ่งเราสามารถสร้างเครื่องดื่มตำรับของตัวเองจาก tablet ที่วางประจำโต๊ะบาร์ (โดยใช้ cruise card สแกน) หุ่นยนต์ 2 ตัวจะทำการผสมเครื่องดื่มตามออร์เดอร์ และส่งให้เราทางสายพาน เรียกว่า สนุกทั้งตอนที่สั่ง และตอนดูบาร์เทนเดอร์หุ่นยนต์โชว์ลีลาเขย่าค็อกเทลเลยทีเดียว
-นอกจากนี้ยังมี Royal Promenade ถนนใจกลางเรือ บนชั้น 5 มีผับ บาร์ และคาเฟ่เก๋ ๆ ให้นั่งหย่อนใจ ฟังดนตรีเพราะๆ จากไลฟ์แบนด์ที่สร้างจังหวะคึกคัก บรรยากาศสดใสด้วยเพดานเปิดโล่งรับแสงธรรมชาติ Royal Shops ให้คุณช็อปปิ้งสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมปลอดภาษี จำหน่ายในราคาลดพิเศษ หรือจะเป็นสินค้าที่ระลึกประจำเรือก็น่าสนใจหลายชิ้น Boardwalk พื้นที่ชั้น 6 ของเรือ มีบอร์ดวอล์คเป็นหัวใจ ให้อารมณ์รื่นเริงแบบงานแฟร์ เพราะมีม้าหมุนคอยต้อนรับ แถมด้วยซุ้มเกม และร้านกินเล่น อย่าง Boardwalk Dog House และ Johnny Rockets ท้ายเรือเป็นที่ตั้งของลานแสดงกลางแจ้งขนาดใหญ่ โรงละครสระน้ำ Aquatheater ที่มีโชว์พิเศษทุกค่ำคืน....
ยังมีอีกหลายจุดที่คุณสามารถใช้เวลาหย่อนใจนั่งชิลตลอดทริปเรือ สำหรับคนที่แสวงหามุมเงียบสงบนั่งชิวล์กับเครื่องดื่ม พร้อมอ่านหนังสือหรือเล่นอินเทอร์เน็ตเพลินๆก็ขอแนะนำที่ Solarium Bar และมุมพักผ่อน Central Parkสวนสาธารณบนเรือสำราญสุดหรู ส่วนท่านที่สนใจกิจกรรมเพื่อสุขภาพต้องไปลองใช้เวลากับ ศูนย์วิตเนส Vitality Fitness Center หรือทำสปากับทรีตเมนต์สูตรเฉพาะที่ Vitality At Sea Spa บนชั้น 5 เลยจ้า!!!
...นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายที่รอให้ท่านได้มาทดลองสัมผัสความสนุกด้วยตัวเอง..
***Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by HMT***
ขอบคุณเครดิตภาพ https://www.royalcaribbeanpresscenter.com/